คลินิกความงามพัทยา โบท็อกซ์ พัทยา ฟิลเลอร์ ไฮฟู เลเซอร์ ...ที่คลินิกกู๊ดด็อกเตอร์บิวตี้คลีนิก ลิ้ตเติ้ลวอล์ค พัทยา
ฟิลเลอร์ List
ฟิลเลอร์ Juvedrem
Juvederm™ เป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในการเสริมความงาม ด้วยส่วนประกอบที่เป็นกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ Juvederm™ ช่วยเติมเต็มและปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์และเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น
คุณสมบัติเด่นของ Juvederm™:
ความปลอดภัยสูง: ผ่านการทดสอบทางคลินิกและได้รับการรับรองมาตรฐานสากล
ประสิทธิภาพยาวนาน: ผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้ตั้งแต่ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์และบริเวณที่ฉีด
ความหลากหลายในการใช้งาน: ใช้ได้ทั้งในการเติมเต็มริมฝีปาก ร่องแก้ม และการปรับรูปหน้า
เนื้อเจลที่นุ่มนวล: ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติและเรียบเนียน
การฟื้นตัวที่รวดเร็ว: ใช้เวลาในการฟื้นตัวน้อย ทำให้สามารถกลับไปทำกิจกรรมประจำวันได้อย่างรวดเร็ว
Filler ยี่ห้อไหนดี
เปรียบเทียบฟิลเลอร์ยอดนิยมในประเทศไทย
1. Restylane
Restylane เป็นฟิลเลอร์ที่ผลิตจาก Hyaluronic Acid (HA) ที่ไม่ได้มาจากสัตว์ ได้รับการรับรองจาก FDA สหรัฐอเมริกา เหมาะสำหรับการเติมเต็มริ้วรอยและเพิ่มปริมาตรให้กับใบหน้า
ข้อดี:
ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
มีความปลอดภัยสูง
สามารถใช้ได้กับหลายบริเวณบนใบหน้า
มีหลายความเข้มข้นให้เลือกใช้
ข้อเสีย:
ราคาค่อนข้างสูง
ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด
อาจเกิดอาการบวมหรือรอยช้ำเล็กน้อยหลังการฉีด
2. Juvederm
Juvederm เป็นฟิลเลอร์ HA ที่มีเทคโนโลยี VYCROSS® ช่วยให้เนื้อเจลเชื่อมโยงกันได้ดี ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและอยู่ได้นาน
ข้อดี:
ผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 18-24 เดือน ขึ้นอยู่กับสูตร
มีหลายสูตรให้เลือกตามความต้องการ
เนื้อเจลนุ่ม ทำให้ดูเป็นธรรมชาติ
ลดการเกิดอาการบวมหลังฉีด
ข้อเสีย:
ราคาสูงกว่าฟิลเลอร์บางยี่ห้อ
อาจเกิดอาการแพ้ในผู้ที่แพ้ส่วนผสม
ต้องฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
3. Belotero
Belotero เป็นฟิลเลอร์ HA ที่มีเนื้อเจลละเอียด เหมาะสำหรับการแก้ไขริ้วรอยตื้นๆ และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติมาก
ข้อดี:
เนื้อเจลละเอียด ทำให้ผิวเรียบเนียนมาก
เหมาะสำหรับริ้วรอยตื้นๆ และบริเวณที่ต้องการความละเอียดสูง
มีโอกาสเกิดก้อนหรือตุ่มน้อยมาก
ผสมกลมกลืนกับเนื้อเยื่อได้ดี
ข้อเสีย:
อาจต้องฉีดซ้ำบ่อยกว่าฟิลเลอร์อื่นๆ เนื่องจากเนื้อเจลละเอียด
ไม่เหมาะสำหรับการเพิ่มปริมาตรมากๆ
ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน
4. Neuramis
Neuramis เป็นฟิลเลอร์ HA จากเกาหลีใต้ ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในประเทศไทย มีความปลอดภัยสูงและให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
ข้อดี:
ราคาย่อมเยากว่าฟิลเลอร์แบรนด์ยุโรปหรืออเมริกา
มีหลายสูตรให้เลือกตามความต้องการ
ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
มีความปลอดภัยสูง ผ่านการรับรองมาตรฐาน CE
ข้อเสีย:
อาจยังไม่เป็นที่รู้จักมากเท่าแบรนด์อื่นๆ
ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับสูตร
อาจหาใช้ได้ยากกว่าแบรนด์อื่นในบางคลินิก
ยี่ห้อ ระยะเวลาการอยู่ตัว ความเหมาะสม ราคา
Restylane 6-12 เดือน เหมาะกับหลายบริเวณ สูง
Juvederm 12-18 เดือน เหมาะกับการเพิ่มปริมาตร สูง
Belotero 6-12 เดือน เหมาะกับริ้วรอยตื้น ปานกลาง
Neuramis 10-12 เดือน เหมาะกับหลายบริเวณ ปานกลาง
ฟิลเลอร์คาง
การฉีดฟิลเลอร์คางเป็นหนึ่งในวิธีที่นิยมในการปรับรูปทรงของใบหน้าให้ดูสมส่วนและมีความสมดุลมากขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด การเตรียมตัวก่อนฉีดและการดูแลหลังฉีดเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด ต่อไปนี้เป็นข้อมูลที่ครบถ้วนเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์คาง
ประโยชน์ของการฉีดฟิลเลอร์คาง
ปรับรูปทรงใบหน้า: ช่วยให้ใบหน้าดูเรียวยาวและสมส่วนมากขึ้น
เพิ่มความสมดุล: ช่วยปรับสมดุลของใบหน้าให้ดูดีขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมองจากด้านข้าง
ไม่ต้องผ่าตัด: เป็นวิธีที่ไม่ต้องการการผ่าตัดและมีเวลาพักฟื้นน้อย
ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว: เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังฉีด
ปรับแต่งได้ง่าย: สามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้ตามต้องการ
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์คางปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ:
ฟิลเลอร์ปาก
การฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นวิธีที่นิยมในการเพิ่มความอวบอิ่มและปรับรูปทรงของริมฝีปากให้ดูสวยงาม การเตรียมตัวก่อนฉีดและการดูแลหลังฉีดเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด ต่อไปนี้เป็นข้อมูลที่ครบถ้วนเกี่ยวกับการเตรียมตัวและการดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก พร้อมทั้งตัวอย่าง
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก
ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ: เพื่อประเมินรูปทรงปากและเลือกประเภทฟิลเลอร์ที่เหมาะสม
หลีกเลี่ยงยาบางชนิด: งดใช้ยาแอสไพริน, ไอบูโพรเฟน และวิตามินอี ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนฉีด เพื่อลดความเสี่ยงต่อการช้ำ
งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์: อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนฉีด เพื่อลดการบวมและช้ำ
เตรียมสภาพผิว: รักษาผิวให้ชุ่มชื้นและสุขภาพดี
แจ้งประวัติการแพ้: หากมีประวัติการแพ้สารใด ๆ ควรแจ้งแพทย์
การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
หลีกเลี่ยงการสัมผัส: หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดบริเวณที่ฉีดใน 24 ชั่วโมงแรก
งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอาหารร้อน: อย่างน้อย 24 ชั่วโมงหลังฉีด
ดื่มน้ำมาก ๆ: เพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิว
หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก: ประมาณ 48 ชั่วโมงหลังฉีด
ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงริมฝีปาก: เพื่อรักษาความชุ่มชื้น
ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์: อย่างเคร่งครัด
ฟิลเลอร์ร่องน้ำหมาก
การฉีดฟิลเลอร์ร่องน้ำหมาก (หรือร่องแก้ม) เป็นหนึ่งในวิธีที่นิยมใช้ในการแก้ไขปัญหาริ้วรอยลึกที่เกิดขึ้นบริเวณร่องแก้ม ซึ่งมักจะเกิดจากการสูญเสียคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวหนังเมื่ออายุมากขึ้น การฉีดฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มร่องลึกเหล่านี้ ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้น ต่อไปนี้เป็นข้อมูลที่ครบถ้วนเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ร่องน้ำหมาก รวมถึงการเตรียมตัวก่อนฉีดและการดูแลหลังฉีด
ประโยชน์ของการฉีดฟิลเลอร์ร่องน้ำหมาก
ลดร่องลึก: ช่วยเติมเต็มร่องลึกบริเวณร่องแก้ม ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น
ปรับปรุงรูปลักษณ์: ทำให้ใบหน้าดูสดใสและมีชีวิตชีวามากขึ้น
ผลลัพธ์รวดเร็ว: เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังฉีด และใช้เวลาพักฟื้นน้อย
ไม่ต้องผ่าตัด: เป็นวิธีการที่ไม่ต้องพึ่งการผ่าตัดและมีความเสี่ยงต่ำ
ปรับแต่งได้ง่าย: สามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้ตามต้องการ
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ร่องน้ำหมาก
ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ:
ประเมินร่องแก้มและเลือกประเภทฟิลเลอร์ที่เหมาะสม
ถามคำถามเกี่ยวกับกระบวนการและผลลัพธ์ที่คาดหวัง
หลีกเลี่ยงยาบางชนิด:
งดใช้ยาแอสไพริน, ไอบูโพรเฟน, วิตามินอี และอาหารเสริมบางชนิด เช่น โสม, น้ำมันปลา ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนฉีด เพื่อลดความเสี่ยงต่อการช้ำ
งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์:
อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนฉีด เพื่อลดการบวมและช้ำ
เตรียมสภาพผิว:
รักษาผิวให้ชุ่มชื้นและสุขภาพดี
หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์หรือทรีทเมนต์ที่รุนแรงบนใบหน้าก่อนฉีด
แจ้งประวัติการแพ้:
หากมีประวัติการแพ้สารใด ๆ ควรแจ้งแพทย์
เตรียมใจและเวลา:
เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการพักฟื้นเล็กน้อยหลังฉีด
การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องน้ำหมาก
หลีกเลี่ยงการสัมผัส:
หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดบริเวณที่ฉีดใน 24 ชั่วโมงแรก
งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอาหารร้อน:
อย่างน้อย 24 ชั่วโมงหลังฉีด เพื่อป้องกันการระคายเคือง
ดื่มน้ำมาก ๆ:
เพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิว
หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก:
ประมาณ 48 ชั่วโมงหลังฉีด เพื่อลดความเสี่ยงต่อการบวม
ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว:
เพื่อรักษาความชุ่มชื้นและป้องกันการแตกลาย
ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์:
อย่างเคร่งครัด และหากมีอาการผิดปกติให้ติดต่อแพทย์ทันที
สังเกตอาการ:
หากมีอาการบวมแดงหรือคันอย่างรุนแรง ควรติดต่อแพทย์
ข้อควรระวัง
เลือกสถานพยาบาลที่มีมาตรฐาน: ควรเลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่มีความน่าเชื่อถือและมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ใช้ฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรอง: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าฟิลเลอร์ที่ใช้ได้รับการรับรองจากองค์กรที่เกี่ยวข้อง
ฟิลเลอร์ขมับ
การฉีดฟิลเลอร์ขมับเป็นวิธีที่นิยมใช้ในการปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์และสมดุลมากขึ้น เนื่องจากขมับที่เต็มจะช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติมากขึ้น การฉีดฟิลเลอร์ขมับสามารถช่วยเติมเต็มบริเวณที่มีการสูญเสียปริมาตรเนื่องจากอายุที่มากขึ้น ต่อไปนี้คือข้อมูลที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการเตรียมตัวก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์ขมับ
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ขมับ
ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ:
นัดหมายเพื่อประเมินรูปหน้ารวมถึงการเลือกประเภทฟิลเลอร์ที่เหมาะสม
ถามคำถามเกี่ยวกับกระบวนการและผลลัพธ์ที่คาดหวัง
หลีกเลี่ยงยาบางชนิด:
งดใช้ยาแอสไพริน, ไอบูโพรเฟน, วิตามินอี และอาหารเสริมบางชนิด เช่น โสม, น้ำมันปลา ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนฉีด เพื่อลดความเสี่ยงต่อการช้ำ
งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์:
อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนฉีด เพื่อลดการบวมและช้ำ
เตรียมสภาพผิว:
รักษาผิวให้ชุ่มชื้นและสุขภาพดี
หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์หรือทรีทเมนต์ที่รุนแรงบนใบหน้าก่อนฉีด
แจ้งประวัติการแพ้:
หากมีประวัติการแพ้สารใด ๆ ควรแจ้งแพทย์
เตรียมใจและเวลา:
เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการพักฟื้นเล็กน้อยหลังฉีด
การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ
หลีกเลี่ยงการสัมผัส:
หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดบริเวณที่ฉีดใน 24 ชั่วโมงแรก
งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอาหารร้อน:
อย่างน้อย 24 ชั่วโมงหลังฉีด เพื่อป้องกันการระคายเคือง
ดื่มน้ำมาก ๆ:
เพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิว
หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก:
ประมาณ 48 ชั่วโมงหลังฉีด เพื่อลดความเสี่ยงต่อการบวม
ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว:
เพื่อรักษาความชุ่มชื้นและป้องกันการแตกลาย
ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์:
อย่างเคร่งครัด และหากมีอาการผิดปกติให้ติดต่อแพทย์ทันที
สังเกตอาการ:
หากมีอาการบวมแดงหรือคันอย่างรุนแรง ควรติดต่อแพทย์
ข้อควรระวัง
เลือกสถานพยาบาลที่มีมาตรฐาน: ควรเลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่มีความน่าเชื่อถือและมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ใช้ฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรอง: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าฟิลเลอร์ที่ใช้ได้รับการรับรองจากองค์กรที่เกี่ยวข้อง
ฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นวิธีที่นิยมใช้เพื่อแก้ไขปัญหารอยคล้ำ ถุงใต้ตา และความหย่อนคล้อยที่ทำให้ใบหน้าดูอ่อนล้า การฉีดฟิลเลอร์สามารถช่วยให้ผิวใต้ตาดูเต็มและสดใสขึ้น ต่อไปนี้เป็นข้อมูลที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา รวมถึงวิธีการเตรียมตัวและการดูแลหลังฉีด
ประโยชน์ของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ลดรอยคล้ำและถุงใต้ตา: เติมเต็มบริเวณที่มีรอยคล้ำหรือมีถุงใต้ตาให้ดูเรียบเนียนขึ้น
เพิ่มความสดใสให้ใบหน้า: ทำให้ใบหน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น
ปรับปรุงความหย่อนคล้อย: ช่วยยกกระชับผิวบริเวณใต้ตา
ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว: สามารถเห็นผลได้ทันทีหลังการฉีด
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเป็นวิธีที่นิยมใช้เพื่อแก้ไขปัญหาร่องลึกบริเวณแก้ม ซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่ออายุมากขึ้นหรือจากการแสดงอารมณ์บนใบหน้าเป็นเวลานาน ต่อไปนี้คือข้อมูลที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม:
ประ โยชน์ของการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
ลดร่องลึก: ฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มร่องลึกบริเวณแก้ม ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และเรียบเนียนขึ้น
ปรับปรุงโครงหน้า: ช่วยยกกระชับใบหน้าและปรับรูปหน้าให้ดูสมดุลยิ่งขึ้น
ฟิลเลอร์หน้าผาก
ฟิลเลอร์ที่ใช้สำหรับการฉีดหน้าผากมีสรรพคุณหลัก ๆ ที่ช่วยในการปรับปรุงและเสริมสร้างความงามของใบหน้า ดังนี้:
1.เติมเต็มพื้นที่: ฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มร่องลึกหรือพื้นที่ที่มีการสูญเสียปริมาตรบนหน้าผาก ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและเต่งตึงขึ้น
2.ลดเลือนริ้วรอย: สามารถลดเลือนริ้วรอยและเส้นบาง ๆ บนหน้าผาก ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น
3.ปรับรูปทรงหน้าผาก: ช่วยปรับรูปทรงของหน้าผากให้ดูสมดุลและมีมิติมากขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่หน้าผากแบนหรือไม่เรียบ
4.ยกกระชับผิว: ฟิลเลอร์บางชนิดสามารถช่วยยกกระชับผิว ทำให้หน้าผากดูสดใสและมีชีวิตชีวามากขึ้น
5.กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน: ฟิลเลอร์บางประเภท เช่น ที่มีส่วนประกอบของกรดไฮยาลูโรนิก สามารถกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในผิวหนัง ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นและแข็งแรงขึ้น
6.ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและยาวนาน: ผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์สามารถเห็นได้ทันทีและสามารถคงอยู่ได้นานหลายเดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้
7.ไม่ต้องพักฟื้นนาน: การฉีดฟิลเลอร์เป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด จึงไม่ต้องการเวลาพักฟื้นนานและมีความเสี่ยงต่ำกว่าเมื่อเทียบกับการทำศัลยกรรม
ฟิลเลอร์หน้าผากจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรุงลักษณะของหน้าผากและเพิ่มความมั่นใจในตนเองโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการผ่าตัดใหญ่