ฉีดฟิลเลอร์แล้วทำไมย้ายตำแหน่งเกิดจากอะไร

🔎 สาเหตุที่ทำให้ฟิลเลอร์ย้ายตำแหน่ง (แบบละเอียดที่สุด)
1. เทคนิคการฉีดของแพทย์
ฉีดผิดชั้นผิว: ฟิลเลอร์แต่ละรุ่นมีตำแหน่งที่เหมาะสมเฉพาะ หากฉีดผิดชั้นผิว เช่น ฉีดตื้นเกินไปหรือฉีดลึกเกินไป อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ได้ง่าย
ใช้ปริมาณมากเกินไป: การฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณที่มากเกินความจำเป็น จะทำให้เกิดแรงดันใต้ผิวหนัง ส่งผลให้ฟิลเลอร์กระจายตัวหรือเคลื่อนที่ผิดตำแหน่ง
เทคนิคการฉีดที่ไม่แม่นยำ: การฉีดเร็วเกินไป แรงเกินไป หรือฉีดไม่สม่ำเสมอ อาจทำให้ฟิลเลอร์ไม่อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ
2. ชนิดและคุณสมบัติของฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์เนื้อเหลวมาก: ฟิลเลอร์ที่เนื้อบางเบาและเหลวมาก จะเคลื่อนตัวได้ง่ายกว่าแบบเนื้อแน่นและคงตัวสูง
การเลือกฟิลเลอร์ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งที่ฉีด: เช่น ใช้ฟิลเลอร์ที่มีความนิ่มมากไปฉีดบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวบ่อย อาจทำให้เกิดการเคลื่อนที่ได้ง่ายขึ้น
3. พฤติกรรมของผู้รับการฉีดหลังฉีดฟิลเลอร์
การจับหรือกดบริเวณที่ฉีดบ่อยๆ: การสัมผัสหรือกดบริเวณที่ฉีดแรงๆ หรือบ่อยครั้งหลังฉีดใหม่ๆ อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ได้
การออกกำลังกายหนัก: การออกกำลังกายอย่างหนัก หรือทำกิจกรรมที่มีแรงกระแทก เช่น วิ่ง กระโดด หรือโยคะร้อน ในช่วงสัปดาห์แรกหลังฉีด อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ได้
การนวดหน้าหรือทำทรีตเมนต์หน้าเร็วเกินไป: การนวดหรือกดหน้าหลังฉีดฟิลเลอร์ใหม่ๆ อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่จากตำแหน่งที่แพทย์วางไว้
4. ลักษณะทางกายวิภาคของแต่ละบุคคล
กล้ามเนื้อบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวสูง: บริเวณรอบดวงตา ริมฝีปาก หรือร่องแก้ม ซึ่งมีการขยับเคลื่อนไหวบ่อย อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ได้ง่ายกว่าบริเวณอื่น
โครงสร้างผิวหนังและกล้ามเนื้อที่แตกต่างกัน: คนที่มีผิวหนังบางหรือหย่อนคล้อย อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ง่ายขึ้น
5. การเสื่อมสภาพของฟิลเลอร์ตามกาลเวลา
ฟิลเลอร์มีอายุการใช้งานจำกัด เมื่อเวลาผ่านไปจะเริ่มสลายตัว ทำให้เกิดการเคลื่อนที่หรือกระจายตัวได้ง่ายขึ้น