top of page
ค้นหา

ฉีดฟิลเลอร์จมูก

การฉีดฟิลเลอร์จมูกเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการปรับทรงจมูกให้ดูสวยงามและสมส่วนโดยไม่ต้องผ่าตัด การฉีดฟิลเลอร์ช่วยแก้ไขปัญหาทรงจมูก เช่น จมูกแบน จมูกเบี้ยว หรือจมูกที่มีรอยบุบ โดยใช้สารเติมเต็ม (Filler) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสาร **Hyaluronic Acid (HA)** ที่ปลอดภัยและสามารถสลายได้ตามธรรมชาติ ข้อบ่งชี้ในการฉีดฟิลเลอร์จมูก

ต้องการทดลองก่อนทำศัลยกรรม

1. **ไม่ต้องผ่าตัด**: ไม่มีแผลผ่าตัดหรือการพักฟื้นนาน

2. **เห็นผลทันที**: สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงของทรงจมูกได้ทันทีหลังฉีด

3. **ปรับแต่งได้**: หากไม่พอใจในผลลัพธ์ สามารถฉีดสาร Hyaluronidase เพื่อสลายฟิลเลอร์ได้

4. **ใช้เวลาน้อย**: ขั้นตอนใช้เวลาเพียง 15-30 นาที

5. **เหมาะสำหรับการทดลองก่อนผ่าตัด**: หากยังไม่แน่ใจว่าต้องการผ่าตัดเสริมจมูกหรือไม่

**ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์จมูก**

1. **ผลลัพธ์ไม่ถาวร**: ฟิลเลอร์จะสลายไปตามธรรมชาติในระยะเวลา 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์และการดูแล

2. **เสี่ยงต่อการอุดตันหลอดเลือด**: หากฉีดโดยผู้ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การอุดตันหลอดเลือดที่อาจนำไปสู่เนื้อเยื่อตายหรือการตาบอด

3. **ไม่เหมาะสำหรับทุกคน**: บางคนที่มีปัญหาโครงสร้างจมูกผิดปกติอย่างรุนแรง อาจต้องเลือกการผ่าตัดแทน

**ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์จมูก**

1. **การประเมินทรงจมูก**: แพทย์จะทำการประเมินรูปทรงจมูกและพูดคุยถึงความต้องการของคนไข้

2. **การเลือกฟิลเลอร์**: เลือกชนิดฟิลเลอร์ที่เหมาะสม เช่น Juvederm, Restylane, หรือ Belotero ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ได้รับการรับรอง

3. **การเตรียมตัวก่อนฉีด**: ทำความสะอาดบริเวณจมูกและทายาชา

4. **การฉีดฟิลเลอร์**: แพทย์จะฉีดฟิลเลอร์ในตำแหน่งที่เหมาะสม เช่น สันจมูกหรือปลายจมูก

5. **การประเมินผลทันที**: หลังฉีด แพทย์จะปรับแต่งทรงจมูกให้ดูสมส่วน

**การดูแลตัวเองก่อนฉีดฟิลเลอร์จมูก**

1. **งดรับประทานยาและอาหารเสริมบางชนิด**:

- หลีกเลี่ยงยาแอสไพริน ไอบูโพรเฟน และวิตามินอี อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนฉีด

- งดอาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น น้ำมันปลา โสม และใบแปะก๊วย

2. **งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่**: อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนฉีด

3. **พักผ่อนให้เพียงพอ**: เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดี

4. **แจ้งประวัติสุขภาพ**: หากมีโรคประจำตัวหรือแพ้ยา ควรแจ้งแพทย์ล่วงหน้า

**การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์จมูก**

1. **หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดจมูก**:

- ห้ามจับหรือกดจมูกแรง ๆ ในช่วง 48 ชั่วโมงแรก

- หลีกเลี่ยงการใส่แว่นตาหนัก ๆ ที่กดทับบริเวณจมูก

2. **งดออกกำลังกายหนัก**: อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมงหลังฉีด

3. **หลีกเลี่ยงความร้อน**: เช่น การซาวน่า หรือการตากแดดจัด เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น

4. **งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่**: เพื่อหลีกเลี่ยงการอักเสบและลดการบวม

5. **ดื่มน้ำมาก ๆ**: เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์คงตัวและผิวชุ่มชื้น 6. **สังเกตอาการผิดปกติ**:

- หากมีอาการปวดรุนแรง บวมแดง หรือช้ำมากผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที

**คำแนะนำเพิ่มเติม**

**เลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ**: ควรเลือกคลินิกที่ได้รับการรับรองและมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ

**ตรวจสอบฟิลเลอร์ก่อนฉีด**: ขอให้แพทย์แสดงกล่องฟิลเลอร์ที่ใช้เพื่อยืนยันว่าเป็นของแท้

**ติดตามผลหลังฉีด**: ควรกลับไปพบแพทย์เพื่อติดตามผลลัพธ์และตรวจสอบความเรียบร้อย

**คำถามที่พบบ่อย**

1. **ฉีดฟิลเลอร์จมูกเจ็บไหม?**

- รู้สึกเจ็บเล็กน้อยในช่วงที่ฉีด แต่แพทย์มักจะใช้ยาชาช่วยลดความเจ็บปวด

2. **ฟิลเลอร์จมูกอยู่ได้นานแค่ไหน?**

- โดยทั่วไปอยู่ได้ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์และการดูแลตัวเอง

3. **ฉีดฟิลเลอร์จมูกแล้วบวมกี่วัน?**

- อาการบวมมักลดลงภายใน 1-3 วัน และหายสนิทใน 1 สัปดาห์


ประเภทของฟิลเลอร์ที่นิยมใช้

1. **Juvederm**

- ความเหนียวสูง

- เหมาะกับการเสริมสันจมูก

- อยู่ได้นาน 12-18 เดือน

2. **Restylane**

- เนื้อสารละเอียด

- เหมาะกับการแต่งปลายจมูก

- อยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน

3. **Belotero**

- เนื้อนุ่ม กระจายตัวดี

- เหมาะกับการปรับแต่งรายละเอียด การฉีดฟิลเลอร์จมูก

1. ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับฟิลเลอร์จมูก

ฟิลเลอร์คืออะไร?

- เป็นสารเติมเต็มชนิด Hyaluronic Acid (HA)

- สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ

- ได้รับการรับรองความปลอดภัยจาก อย.

- ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน

ประเภทของฟิลเลอร์ที่นิยมใช้

1. **Juvederm**

- ความเหนียวสูง

- เหมาะกับการเสริมสันจมูก

- อยู่ได้นาน 12-18 เดือน

2. **Restylane**

- เนื้อสารละเอียด

- เหมาะกับการแต่งปลายจมูก

- อยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน

3. **Belotero**

- เนื้อนุ่ม กระจายตัวดี

- เหมาะกับการปรับแต่งรายละเอียด

- อยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน

2. ข้อบ่งชี้ในการฉีดฟิลเลอร์จมูก

เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหา:

- สันจมูกต่ำ

- ปลายจมูกไม่ชัด

- จมูกบุ๋ม หรือมีรอยหยัก

- จมูกเบี้ยวเล็กน้อย

- ต้องการทดลองก่อนทำศัลยกรรม

3. การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์

2 สัปดาห์ก่อนฉีด:

- งดการใช้ยาละลายลิ่มเลือด

- หยุดรับประทานอาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด

- วิตามินอี

- น้ำมันปลา

- สาหร่ายสไปรูลิน่า

- กระเทียม

1 สัปดาห์ก่อนฉีด:

- งดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ:

- กรดวิตามินเอ (Retinol)

- กรดผลไม้ (AHA/BHA)

- เครื่องมือกระตุ้นคอลลาเจน

24 ชั่วโมงก่อนฉีด:

- งดดื่มแอลกอฮอล์

- งดสูบบุหรี่

- งดยาแก้ปวดทุกชนิด

- พักผ่อนให้เพียงพอ

- งดอาหารรสจัด

4. ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์

การเตรียมการ:

1. ทำความสะอาดใบหน้า

2. ถ่ายภาพก่อนทำ

3. ทายาชาเฉพาะที่

4. รอยาชาออกฤทธิ์ 15-30 นาที

ขั้นตอนการฉีด:

1. แพทย์ทำการฆ่าเชื้อบริเวณที่จะฉีด

2. กำหนดจุดฉีดและปริมาณฟิลเลอร์

3. ฉีดฟิลเลอร์ตามจุดที่กำหนด

4. นวดและปรับแต่งรูปทรง

5. ประคบเย็นเพื่อลดการบวม

5. การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์

24 ชั่วโมงแรก:

- ประคบเย็นทุก 1-2 ชั่วโมง (ครั้งละ 10-15 นาที)

- นอนศีรษะสูง

- ห้ามสัมผัสหรือกดบริเวณที่ฉีด

- งดอาบน้ำร้อน

48 ชั่วโมงแรก:

- งดออกกำลังกายหนัก

- งดดื่มแอลกอฮอล์

- งดอาหารรสจัด

- หลีกเลี่ยงความร้อน

- งดใส่แว่นตาที่หนัก

1 สัปดาห์แรก:

- งดนวดหน้า

- งดทำทรีทเมนต์ใดๆ

- หลีกเลี่ยงการตากแดด

- ทาครีมกันแดด SPF 50+ ทุก 2 ชั่วโมง

2 สัปดาห์แรก:

- งดการใช้เครื่องมือกระตุ้นคอลลาเจน

- งดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด

6. อาการที่อาจพบหลังฉีด

อาการปกติ:

- บวมเล็กน้อย (3-5 วัน)

- รอยช้ำ (5-7 วัน)

- รู้สึกตึงบริเวณจมูก

- รู้สึกไม่สบายเล็กน้อย

อาการผิดปกติที่ต้องพบแพทย์ทันที:

- ปวดรุนแรง

- บวมมาก

- ผิวเปลี่ยนสีเป็นสีขาวซีด

- มีอาการชา

- ตามองเห็นผิดปกติ

- มีไข้

7. ข้อควรระวังพิเศษ

ห้ามฉีดฟิลเลอร์ในกรณี:

- กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

- มีการติดเชื้อบริเวณที่จะฉีด

- มีโรคภูมิแพ้รุนแรง

- มีโรคออโตอิมมูน

- มีแนวโน้มการเกิดแผลเป็นคีลอยด์

- เคยแพ้ฟิลเลอร์มาก่อน

8. การดูแลระยะยาว

เพื่อยืดอายุฟิลเลอร์:

1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ (8-10 แก้วต่อวัน)

2. ทาครีมกันแดดทุกวัน

3. หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อนสูง

4. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

5. พักผ่อนให้เพียงพอ

การติดตามผล:

- นัดตรวจติดตามผลหลังฉีด 2 สัปดาห์

- ประเมินผลลัพธ์และปรับแต่งเพิ่มเติมถ้าจำเป็น

- สังเกตการเปลี่ยนแปลงและกลับมาฉีดเติมเมื่อฟิลเลอร์เริ่มสลายตัว

9. คำแนะนำสำคัญ

1. เลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีใบประกอบวิชาชีพ

2. ตรวจสอบแบรนด์และที่มาของฟิลเลอร์

3. ถ่ายรูปก่อน-หลังเพื่อเปรียบเทียบผล

4. ปฏิบัติตามคำแนะนำการดูแลอย่างเคร่งครัด

5. สังเกตอาการผิดปกติและรีบปรึกษาแพทย์หากมีปัญหา

การฉีดฟิลเลอร์จมูกเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปทรงจมูกโดยไม่ต้องผ่าตัด แต่ควรศึกษาข้อมูลให้ดีและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีและความปลอดภัยสูงสุด


 
 
 

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด
ไฮฟู Hifu ultramax 7D ลดเหนียงได้ไหม

HIFU Ultramax 7D: ทางออกสุดล้ำสำหรับปัญหาเหนียง 🌟 🔍 HIFU Ultramax 7D ลดเหนียงได้จริงหรือไม่? ตอบ: ได้อย่างมีประสิทธิภาพ! HIFU Ultramax...

 
 
 
HYCOOX ต้องทำบ่อยแค่ไหน

ความถี่ในการทำทรีทเมนต์ HYCOOX HYCOOX เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง (High-Intensity Focused Ultrasound - HIFU)...

 
 
 
HYCOOX เจ็บไหม

HYCOOX ทำแล้วเจ็บไหม? ระดับความเจ็บของการทำ HYCOOX HYCOOX เป็นเทคโนโลยี Microneedling ที่ใช้เข็มขนาดเล็กมากเจาะผิวเพื่อนำส่งสารบำรุงเข้าส...

 
 
 

Comments


ลิตเติ้ลวอล์คพัทยา 8/114 ต.หนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี 20150

 Good Doctor Medical clinic 8/114 ต.หนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี 20150

Tel: +6633002322

bottom of page