ฉีดโบท็อกซ์แล้วหน้าเรียวจริงไหม
- วันวิสาข์ 2540
- 26 มี.ค.
- ยาว 1 นาที
การฉีดโบท็อกซ์สามารถช่วยทำให้หน้าเรียวได้จริง แต่มีข้อจำกัดและเงื่อนไขที่ควรทราบก่อนตัดสินใจฉีด เพื่อให้เข้าใจอย่างละเอียดที่สุด เรามาดูข้อมูลแบบครบถ้วน พร้อมคำแนะนำการดูแลก่อนและหลังฉีดค่ะ
1. **ลดขนาดกล้ามเนื้อกราม (Masseter Muscle)**
- โบท็อกซ์ช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อกราม ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่ใช้ในการบดเคี้ยว
- เมื่อกล้ามเนื้อกรามคลายตัวและเล็กลง ใบหน้าจะดูเรียวขึ้น โดยเฉพาะในคนที่มีกรามเด่นหรือใบหน้าเป็นทรงเหลี่ยม
- หากใบหน้ากลมเพราะมีไขมันสะสม (Baby Fat) โบท็อกซ์จะไม่ได้ผล เนื่องจากไม่ได้ลดไขมัน
- ในกรณีนี้ อาจต้องใช้วิธีอื่น เช่น การฉีดเมโสแฟต หรือการดูดไขมัน
- โบท็อกซ์ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ถาวร กล้ามเนื้อจะกลับมาใหญ่ขึ้นเมื่อหมดฤทธิ์ (ประมาณ 4-6 เดือน)
- หากต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนาน ต้องฉีดซ้ำตามคำแนะนำของแพทย์
4. **เหมาะสำหรับใคร?**
- ผู้ที่มีกล้ามเนื้อกรามใหญ่จากการใช้งาน เช่น การเคี้ยวอาหารที่เหนียวหรือการนอนกัดฟัน
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีใบหน้ากลมจากกระดูกหรือไขมัน
📋 **การเตรียมตัวก่อนฉีด**
7 วันก่อนฉีด
- งดยากลุ่ม NSAIDs (แอสไพริน, ไอบูโพรเฟน) และอาหารเสริมที่ทำให้เลือดแข็งตัวช้า เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา
- หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และบุหรี่
1 วันก่อนฉีด
- ดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- งดการออกกำลังกายหนัก
วันฉีด
- ล้างหน้าให้สะอาด ไม่แต่งหน้า
- แจ้งแพทย์เกี่ยวกับโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา หรือการฉีดโบท็อกซ์ครั้งก่อน
👩⚕️ **การดูแลหลังฉีด**
4 ชั่วโมงแรก
- ห้ามนอนราบ นั่งตัวตรง
- ห้ามก้มหน้า
- ห้ามแตะหรือกดบริเวณที่ฉีด
24 ชั่วโมงแรก
- ห้ามนวดหน้า
- ห้ามออกกำลังกายหนัก
- ห้ามอาบน้ำร้อนหรือเข้าซาวน่า
- ห้ามดื่มแอลกอฮอล์
1 สัปดาห์แรก
- หลีกเลี่ยงการทำทรีตเมนต์หน้า เช่น การนวดหน้า เลเซอร์ หรือการทำหัตถการอื่นๆ
- หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด
⚠️ **ข้อควรระวัง**
1. **ผลลัพธ์ไม่ทันที**: โบท็อกซ์จะเริ่มเห็นผลใน 3-7 วัน และผลชัดเจนใน 2 สัปดาห์
2. **ผลลัพธ์ชั่วคราว**: หากไม่ฉีดซ้ำ กล้ามเนื้อจะกลับมาใหญ่เหมือนเดิม
3. **เลือกแพทย์ที่เชี่ยวชาญ**: การฉีดผิดตำแหน่งอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น หน้าไม่สมมาตร หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง
🎯 **คำแนะนำเพิ่มเติม**
- ตรวจสอบเลขทะเบียน อย. และสถานที่ฉีดที่ได้มาตรฐาน
2. **ป้องกันการดื้อโบท็อกซ์**
- ไม่ฉีดบ่อยเกินไป (ควรเว้นระยะ 4-6 เดือน)
- ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีโปรตีนประกอบต่ำ เช่น Xeomin
3. **ปรึกษาแพทย์**
- หากมีอาการผิดปกติ เช่น หนังตาตก มองเห็นซ้อน หรือปวดบริเวณที่ฉีด ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
ข้อดีและข้อเสียเปรียบเทียบ:
Botox Xeomin
ข้อดี:
ความบริสุทธิ์สูง ลดความเสี่ยงการแพ้
เหมาะสำหรับผู้ที่มีแนวโน้มแพ้ง่าย
ข้อเสีย:
อาจออกฤทธิ์ช้ากว่า
อาจมีราคาสูงกว่า Nabota
Botox Nabota
ข้อดี:
ราคาถูกกว่า
ประสิทธิภาพใกล้เคียง Allergan
ข้อเสีย:
อาจมีความเสี่ยงต่อการแพ้สูงกว่า Xeomin
ประสบการณ์การใช้งานน้อยกว่า Allergan
Botox Neuronox
ข้อดี:
ราคาถูกกว่า
ใช้ได้หลากหลาย
ข้อเสีย:
ความเสี่ยงต่อการแพ้ปานกลาง
การยอมรับทางการแพทย์น้อยกว่า Allergan
Botox BTXA
ข้อดี:
ราคาถูกกว่า
ผลลัพธ์ใช้ได้ดี
ข้อเสีย:
ความเสี่ยงต่อการแพ้ปานกลาง
การยอมรับทางการแพทย์น้อยกว่า Allergan
Botox Allergan
ข้อดี:
ประสบการณ์การใช้งานยาวนาน
ผลลัพธ์ที่คาดเดาได้และน่าเชื่อถือ
ข้อเสีย:
ราคาสูงกว่า
มีความเสี่ยงต่อการแพ้สูงกว่า Xeomin
หัวข้อหลักสำคัญ:
ส่วนประกอบและความบริสุทธิ์
ประสิทธิภาพและความเร็วในการออกฤทธิ์
ความเสี่ยงต่อการแพ้และการสร้างภูมิคุ้มกัน
Comments