ร้อยไหมกี่เส้นจึงจะเห็นผล
- วันวิสาข์ 2540
- 6 มิ.ย.
- ยาว 2 นาที
การร้อยไหมเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมในการยกกระชับผิวหน้าและลดริ้วรอย โดยไม่ต้องผ่าตัด แต่คำถามที่พบบ่อยคือ "ต้องร้อยไหมกี่เส้นจึงจะเห็นผล?" คำตอบนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ซึ่งจะอธิบายอย่างละเอียดต่อไปนี้
จำนวนเส้นไหมที่แนะนำตามบริเวณต่างๆ
ใบหน้าส่วนบน
หน้าผาก: 4-8 เส้น
คิ้ว: 2-4 เส้นต่อข้าง
หางตา: 2-3 เส้นต่อข้าง
ใต้ตา: 2-3 เส้นต่อข้าง
ใบหน้าส่วนกลาง
แก้ม: 3-5 เส้นต่อข้าง
ร่องแก้ม: 2-3 เส้นต่อข้าง
จมูก: 2-4 เส้น (สำหรับการยกปลายจมูก)
ใบหน้าส่วนล่าง
กรอบหน้า (Jawline): 3-6 เส้นต่อข้าง
คาง: 2-4 เส้น
คอ: 6-12 เส้นการยกกระชับทั้งใบหน้า
แบบเบา: 8-12 เส้น
แบบปานกลาง: 12-20 เส้นแบบเข้มข้น: 20-30 เส้น
ปัจจัยที่มีผลต่อจำนวนเส้นไหมที่ใช้
1. อายุและสภาพผิว
อายุ 30-40 ปี: มักใช้ 8-15 เส้น เนื่องจากผิวยังมีความยืดหยุ่นดี
อายุ 40-50 ปี: มักใช้ 15-25 เส้น เนื่องจากผิวเริ่มมีความหย่อนคล้อยมากขึ้น
อายุ 50 ปีขึ้นไป: อาจต้องใช้ 20-30 เส้นหรือมากกว่า เพื่อให้เห็นผลชัดเจน2. ชนิดของไหม
ไหม PDO (Polydioxanone)
ไหมเรียบ: ต้องใช้จำนวนมากกว่า (15-30 เส้น) เนื่องจากแรงยกน้อย
ไหมหนาม: ใช้จำนวนน้อยกว่า (8-20 เส้น) เนื่องจากมีแรงยกมากกว่า
ไหม PLLA (Poly-L-Lactic Acid)
มีแรงยกมากกว่า PDO จึงใช้จำนวนน้อยกว่า (10-20 เส้น)
ไหม PCL (Polycaprolactone)
มีแรงยกมากที่สุด จึงใช้จำนวนน้อยที่สุด (8-15 เส้น)
3. เป้าหมายของการร้อยไหม
เพื่อป้องกัน: 6-12 เส้น สำหรับผู้ที่เริ่มมีริ้วรอยเล็กน้อย
เพื่อแก้ไข: 12-20 เส้น สำหรับผู้ที่มีริ้วรอยปานกลาง
เพื่อยกกระชับมาก: 20-30 เส้น สำหรับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยมาก
จำนวนเส้นไหมที่ใช้ในแต่ละบริเวณ หมายเหตุ: จำนวนเส้นไหมที่ใช้จะขึ้นอยู่กับชนิดของไหมที่เลือกใช้ เช่น ไหม PDO, PLLA หรือ PCL ซึ่งมีความแข็งแรงและผลลัพธ์ที่แตกต่างกันการเตรียมตัวก่อนร้อยไหม
2 สัปดาห์ก่อนทำหัตถการ
งดการใช้ยาและอาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
ยาแอสไพริน
ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs)
วิตามินอี
น้ำมันปลา
สมุนไพรบางชนิด เช่น แปะก๊วย, โสม, กระเทียมสกัด
งดการทำทรีตเมนต์ใบหน้า
เลเซอร์ทุกชนิด
การขัดผิว (Chemical Peel)
การฉีดโบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์
การนวดหน้าแบบกดลึก
ปรับพฤติกรรม
งดการสูบบุหรี่
ลดการดื่มแอลกอฮอล์
ดื่มน้ำให้เพียงพอ (8-10 แก้วต่อวัน)
รับประทานอาหารที่มีวิตามินซีและโปรตีนสูง
1 สัปดาห์ก่อนทำหัตถการงดการดื่มแอลกอฮอล์โดยเด็ดขาด
แอลกอฮอล์ทำให้เลือดบางลง เพิ่มโอกาสเกิดรอยช้ำ
ลดประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกัน
เพิ่มการบำรุงผิวใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของวิตามินซี
ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มความชุ่มชื้น
หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดแรงๆ
24 ชั่วโมงก่อนทำหัตถการ
ทำความสะอาดใบหน้าอย่างละเอียด
ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอ่อนโยน
งดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด (AHA, BHA)
พักผ่อนให้เพียงพอ
นอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง
ลดความเครียด
งดการแต่งหน้า
การดูแลตัวเองหลังร้อยไหม
24 ชั่วโมงแรก
ประคบเย็น
ใช้ผ้าห่อน้ำแข็งหรือเจลเย็นประคบเบาๆ 15-20 นาที ทุก 1-2 ชั่วโมง
ห้ามวางน้ำแข็งโดยตรงบนผิวหนัง
ประคบเย็นช่วยลดอาการบวมและรอยช้ำ
นอนหงายและยกศีรษะสูง
ใช้หมอน 2-3 ใบรองศีรษะให้สูงกว่าระดับหัวใจ
ช่วยลดอาการบวมและรอยช้ำ
หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหรือตะแคงที่กดทับบริเวณที่ร้อยไหม
งดการสัมผัสใบหน้า
ห้ามกดหรือนวดบริเวณที่ร้อยไหมโดยเด็ดขาด
ล้างหน้าเบาๆ หลีกเลี่ยงการถูแรงๆ
ใช้น้ำเย็นหรืออุณหภูมิห้องในการล้างหน้า ห้ามใช้น้ำอุ่นหรือน้ำร้อน
งดการแสดงออกทางสีหน้าที่มากเกินไป
ลดการยิ้มกว้าง หัวเราะดัง หรือแสดงสีหน้าที่ต้องเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อใบหน้ามาก
การเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อใบหน้ามากเกินไปอาจทำให้ไหมเคลื่อนที่
วันที่ 2-7
รับประทานอาหารอ่อน
เลือกอาหารที่เคี้ยวง่าย เช่น โจ๊ก ซุป พาสต้า
หลีกเลี่ยงอาหารที่ต้องอ้าปากกว้างหรือเคี้ยวนาน เช่น แอปเปิ้ล เนื้อเหนียว
หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เผ็ด เค็ม ที่อาจทำให้เกิดการอักเสบ
งดการแต่งหน้า
งดใช้เครื่องสำอางทุกชนิดอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง
เมื่อเริ่มแต่งหน้า ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและปราศจากสารระคายเคือง
ทาและลบเครื่องสำอางอย่างเบามือ
ดื่มน้ำมากๆ
ดื่มน้ำอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน
น้ำช่วยในการขับสารพิษและลดอาการบวม
หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวใบหน้ามากเกินไป
พูดน้อยลง
หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารที่แข็งหรือเหนียว
สัปดาห์ที่ 1-2
งดกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก
งดการออกกำลังกายหนัก
งดการเล่นกีฬาที่มีการกระแทก
งดการวิ่ง กระโดด หรือกิจกรรมที่มีแรงสั่นสะเทือน
หลีกเลี่ยงความร้อน
งดการอบซาวน่า
งดการอบไอน้ำ
หลีกเลี่ยงการโดนแดดจัด
ใช้ครีมกันแดด SPF 50+ ทุกครั้งที่ออกจากบ้าน
งดการนวดหน้า
งดการนวดหรือกดบริเวณที่ร้อยไหม
หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องนวดหน้าหรืออุปกรณ์กระตุ้นผิว
หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ต้องนวดหรือกดลึก
สัปดาห์ที่ 2-4
ค่อยๆ กลับมาทำกิจกรรมปกติ
เริ่มออกกำลังกายเบาๆ ได้
หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ต้องก้มหัวนานๆ
เริ่มทำกิจกรรมทั่วไปได้ตามปกติ
เริ่มใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวได้
สามารถใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของวิตามินซี
สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Hyaluronic Acid
ยังควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดแรงๆ เช่น AHA, BHA หรือ Retinol
เมื่อไหร่จึงจะเห็นผลลัพธ์
ผลลัพธ์ระยะสั้น (ทันที - 1 สัปดาห์)
ผลลัพธ์ทันที: เห็นการยกกระชับเล็กน้อยจากแรงตึงของไหม
อาการบวม: อาจทำให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่าความเป็นจริง
ผลลัพธ์เริ่มต้น: เห็นได้ชัดหลังอาการบวมลดลง (3-7 วัน)ผลลัพธ์ระยะกลาง (1-3 เดือน)
การสร้างคอลลาเจน: เริ่มเห็นผลจากการกระตุ้นคอลลาเจน
ผิวเรียบเนียนขึ้น: ริ้วรอยเล็กๆ เริ่มจางลง
ความกระชับ: ผิวเริ่มมีความกระชับมากขึ้น
ผลลัพธ์ระยะยาว (3-12 เดือน)
ผลลัพธ์สูงสุด: มักเห็นผลชัดเจนที่สุดหลัง 3-6 เดือน
ความคงทน: ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของไหม
การสลายตัวของไหม: ไหมจะค่อยๆ สลายตัว แต่ผลลัพธ์ยังคงอยู่จากคอลลาเจนที่สร้างขึ้น
อาการผิดปกติที่ควรพบแพทย์
อาการบวมที่เพิ่มขึ้นหลังจาก 3 วัน
อาการบวมควรลดลงหลังวันที่ 3 ไม่ใช่เพิ่มขึ้น
อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ
อาการเจ็บปวดรุนแรง
ความเจ็บปวดที่มากกว่าความรู้สึกไม่สบายทั่วไป
ความเจ็บปวดที่ไม่บรรเทาด้วยยาแก้ปวดทั่วไป
ผิวหนังเปลี่ยนสี
ผิวหนังเป็นสีขาวซีด
ผิวหนังเป็นสีม่วงคล้ำผิดปกติ
ไหมทะลุผิวหนัง
สามารถมองเห็นหรือสัมผัสได้ว่ามีไหมโผล่ออกมาจากผิวหนัง
มีไข้หรือหนองไหล
อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ
ต้องพบแพทย์ทันที
Comments