ร้อยไหมคอ ใต้คาง

การร้อยไหมคอและใต้คาง: ข้อมูลละเอียดและการดูแลตัวเอง

การร้อยไหมคอและใต้คางเป็นหัตถการความงามที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากช่วยแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อย ลดเลือนริ้วรอย และปรับรูปหน้าให้ดูเรียวสวย โดยไม่ต้องผ่าตัด บทความนี้จะให้ข้อมูลละเอียดเกี่ยวกับการร้อยไหมคอและใต้คาง พร้อมวิธีการดูแลตัวเองทั้งก่อนและหลังทำ

ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการร้อยไหมคอและใต้คาง

หลักการทำงาน

การร้อยไหมคอและใต้คางเป็นการใช้เส้นไหมละลายได้สอดใส่เข้าไปใต้ผิวหนังบริเวณคอและใต้คาง เพื่อ:

ยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย

ลดเลือนริ้วรอยบริเวณคอ

กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่

ปรับโครงสร้างใบหน้าส่วนล่างให้ดูเรียวและกระชับ

ลดปัญหาคางสองชั้น (Double chin)

ประเภทของไหมที่ใช้

ไหม PDO (Polydioxanone)

ละลายภายใน 6-8 เดือน

เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง

กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดี

ไหม PLLA (Poly-L-Lactic Acid)

ละลายภายใน 12-18 เดือน

เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยปานกลางถึงมาก

กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้นานกว่า PDO

ไหม PCL (Polycaprolactone)

ละลายภายใน 18-24 เดือน

เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก

ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานที่สุด

รูปแบบของไหม

ไหมเส้นเดี่ยว (Mono Threads)

เส้นตรงเรียบ

ใช้เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและปรับโครงสร้างผิว

เหมาะสำหรับริ้วรอยเล็กๆ และการปรับสภาพผิว

ไหมหนาม (Cog Threads)

มีหนามเล็กๆ ยึดเกาะเนื้อเยื่อ

ช่วยยกกระชับผิวได้ดี

เหมาะสำหรับปัญหาคางสองชั้นและผิวหย่อนคล้อยมาก

ไหมเกลียว (Screw Threads)

มีลักษณะเป็นเกลียวช่วยเพิ่มปริมาตรและความชุ่มชื้น

เหมาะสำหรับบริเวณที่ต้องการเพิ่มความหนาของผิว

ไหมตาข่าย (Mesh Threads)

สร้างโครงสร้างคล้ายตาข่ายใต้ผิวหนัง

ช่วยรองรับและยกกระชับผิวในวงกว้าง

เหมาะสำหรับบริเวณที่มีผิวหย่อนคล้อยมาก

ขั้นตอนการร้อยไหมคอและใต้คาง

การเตรียมการ

แพทย์จะตรวจประเมินสภาพผิวและโครงสร้างใบหน้า

วางแผนตำแหน่งที่จะร้อยไหม

ถ่ายภาพก่อนทำเพื่อเปรียบเทียบผล

การทำความสะอาด

ทำความสะอาดผิวด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ

อาจมีการทำมาร์กบริเวณที่จะร้อยไหม

การระงับความรู้สึก

ทายาชาเฉพาะที่ 20-30 นาที

บางกรณีอาจฉีดยาชาเพื่อความสบาย

การร้อยไหม

แพทย์ใช้เข็มพิเศษสอดไหมเข้าใต้ผิวหนัง

จัดวางไหมตามแนวที่วางแผนไว้

อาจใช้ไหมหลายเส้นในตำแหน่งต่างๆ

สำหรับบริเวณใต้คาง มักใช้ไหมหนามเพื่อยกกระชับคางสองชั้น

สำหรับบริเวณคอ มักใช้ไหมเส้นเดี่ยวหรือไหมเกลียวเพื่อลดริ้วรอย

การปรับแต่ง

แพทย์จะปรับแต่งตำแหน่งไหมให้เหมาะสม

นวดเบาๆ เพื่อให้ไหมกระจายตัวสม่ำเสมอ

การทำความสะอาดหลังทำ

เช็ดทำความสะอาดผิวอีกครั้ง

อาจประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม

ระยะเวลาทั้งหมดประมาณ 30-60 นาที ขึ้นอยู่กับจำนวนไหมที่ใช้และความซับซ้อนของหัตถการ

การดูแลตัวเองก่อนทำร้อยไหมคอและใต้คาง

2 สัปดาห์ก่อนทำ

งดยาและอาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด

แอสไพริน

วาร์ฟาริน

วิตามินอี (ขนาดสูง)

น้ำมันปลา

สมุนไพรบางชนิด เช่น กิงโก บิโลบา, กระเทียม

งดผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ

Retinol

AHA/BHA

วิตามินซีความเข้มข้นสูง

เอนไซม์ต่างๆ

เริ่มเสริมวิตามินและแร่ธาตุ

วิตามินซี (ขนาดปกติ)

ซิงค์

คอลลาเจน

ไบโอติน

1 สัปดาห์ก่อนทำ

งดการดื่มแอลกอฮอล์

ลดความเสี่ยงต่อการเกิดรอยช้ำ

ป้องกันการอักเสบ

งดการสูบบุหรี่

ช่วยให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น

เพิ่มประสิทธิภาพการฟื้นตัว

หลีกเลี่ยงการทำทรีตเมนต์บริเวณคอและใต้คาง

งดการขัดผิว

งดการทำเลเซอร์

งดการทำทรีตเมนต์ที่กระตุ้นผิว

เพิ่มการดูแลผิว

ทาครีมบำรุงที่มีความชุ่มชื้นสูง

ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี Ceramide

ทาครีมกันแดด SPF 50+ ทุกวัน

48 ชั่วโมงก่อนทำ

งดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์บริเวณคอและใต้คาง

โทนเนอร์ที่มีแอลกอฮอล์

น้ำหอม

เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว

ทาครีมบำรุงบ่อยๆ

ใช้มาส์กเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น

พักผ่อนให้เพียงพอ

นอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง

ลดความเครียด

วันทำหัตถการ

ทำความสะอาดคอและใต้คางให้สะอาด

ล้างด้วยสบู่อ่อนๆ

ไม่ใช้สครับหรือผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์ขัด

ไม่ทาครีมหรือโลชั่นใดๆ บริเวณคอและใต้คาง

ให้ผิวสะอาดปราศจากสิ่งปนเปื้อน

สวมเสื้อผ้าที่สะดวก

เสื้อคอกว้างหรือเสื้อกระดุมที่ถอดสวมง่าย

หลีกเลี่ยงเครื่องประดับที่คอและหู

การดูแลตัวเองหลังทำร้อยไหมคอและใต้คาง

24 ชั่วโมงแรก

การประคบเย็น

ประคบเย็น 15 นาที ทุก 1-2 ชั่วโมง

ใช้ถุงน้ำแข็งห่อผ้าสะอาด

ช่วยลดอาการบวมและรอยช้ำ

การนอน

นอนหงายยกศีรษะสูง

ใช้หมอน 2-3 ใบรองศีรษะ

หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหรือตะแคงข้อห้าม

ห้ามสัมผัสหรือกดบริเวณที่ร้อยไหม

ห้ามเอียงคอมากเกินไป

ห้ามก้มหน้าหรือเงยหน้าสุดๆ

ห้ามออกกำลังกาย

การรับประทานยา

ทานยาตามที่แพทย์สั่ง

อาจได้รับยาแก้ปวดหรือยาต้านการอักเสบ

ทานยาปฏิชีวนะ (ถ้ามี) ให้ครบตามกำหนด

วันที่ 2-7

การทำความสะอาด

ล้างหน้าและคอด้วยน้ำอุณหภูมิห้องและสบู่อ่อนๆ

ซับให้แห้งเบาๆ ไม่ถู

ทาครีมที่แพทย์แนะนำ

การดูแลผิว

ทาครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของ:

Hyaluronic Acid

Peptides

Ceramides

ทาครีมกันแดด SPF 50+ ทุกครั้งที่ออกจากบ้าน

ข้อห้าม

งดการนวดหรือกดบริเวณที่ร้อยไหม

งดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารกัดกร่อน

งดการขัดผิวหรือสครับ

งดการใช้น้ำร้อนจัด

งดการสวมเสื้อคอเต่าหรือเสื้อที่รัดคอ

การลดอาการบวม

ประคบเย็นต่อเนื่อง

หลีกเลี่ยงอาหารเค็มและแอลกอฮอล์

ดื่มน้ำมากๆ

สัปดาห์ที่ 2-4

การดูแลผิว

เริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ:

วิตามินซี (ความเข้มข้นต่ำ)

Niacinamide

Peptides

ทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ

การทำกิจกรรม

เริ่มออกกำลังกายเบาๆ ได้

หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ต้องก้มหรือเงยคอมาก

หลีกเลี่ยงการยกของหนักการนวดคอ

เริ่มนวดคอเบาๆ ได้ (ตามคำแนะนำของแพทย์)

ใช้ครีมนวดที่มีความชุ่มชื้นสูง

นวดวนเบาๆ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียน

หลัง 1 เดือน

การดูแลต่อเนื่อง

ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ

ทาครีมกันแดดทุกวัน

ดื่มน้ำมากๆ

การกระตุ้นคอลลาเจน

ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Retinol (ตามคำแนะนำของแพทย์)

ใช้ซีรั่มวิตามินซี

ทานอาหารที่มีคอลลาเจนและวิตามินซีสูง

การติดตามผล

พบแพทย์ตามนัด

สังเกตการเปลี่ยนแปลงของผิวคอและใต้คาง

ถ่ายภาพเพื่อเปรียบเทียบผล

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นและวิธีจัดการ

ผลข้างเคียงทั่วไป

อาการบวม

ปกติในช่วง 1-3 วันแรก

ประคบเย็นและนอนยกศีรษะสูง

ทานยาแก้ปวดตามที่แพทย์สั่ง

รอยช้ำ

อาจเกิดขึ้นได้ 3-7 วัน

ประคบเย็นในช่วงแรก

หลัง 48 ชั่วโมง อาจประคบอุ่นเบาๆ

ใช้ครีมลดรอยช้ำตามคำแนะนำของแพทย์

ความรู้สึกไม่สบาย

ปวดเล็กน้อยถึงปานกลาง

รู้สึกตึงหรือแน่นบริเวณคอและใต้คาง

ทานยาแก้ปวดและพักผ่อน

ผลข้างเคียงที่ควรปรึกษาแพทย์

อาการบวมรุนแรงหรือเจ็บปวดมาก

บวมมากผิดปกติ

ปวดรุนแรงที่ไม่ทุเลาด้วยยาแก้ปวด

การติดเชื้อ

มีไข้

มีหนองหรือสารคัดหลั่ง

ผิวร้อนแดงมากขึ้น

ไหมทะลุผิวหนัง

เห็นเส้นไหมโผล่ออกมาจากผิว

รู้สึกเจ็บหรือระคายเคือง

ผลลัพธ์ไม่สม่ำเสมอ

ผิวไม่เรียบ

มีรอยนูนหรือบุ๋ม

คำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

การดูแลผิวระยะยาว

ใช้ครีมกันแดดทุกวัน

ทาครีมบำรุงคอและใต้คางเป็นประจำ

ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของคอลลาเจนและอีลาสติน

การปรับพฤติกรรม

หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่

ลดการดื่มแอลกอฮอล์

ดื่มน้ำมากๆ

รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

ทำการยืดเหยียดคอเบาๆ เป็นประจำ

การรักษาเสริม

ทรีตเมนต์เสริมตามคำแนะนำของแพทย์

การฉีดวิตามิน

การทำ PRP (Platelet-Rich Plasma)

การใช้ครีมเฉพาะทาง

การทำซ้ำ

ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6-24 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของไหม

ควรทำซ้ำเมื่อเริ่มเห็นว่าผลลัพธ์ลดลง

ปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาระยะยาว

ข้อควรรู้เพิ่มเติม

ผู้ที่เหมาะสมกับการร้อยไหมคอและใต้คาง

ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยบริเวณคอและใต้คาง

ผู้ที่มีปัญหาคางสองชั้น

ผู้ที่มีริ้วรอยบริเวณคอ

ผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัด

ผู้ที่ไม่ควรทำ

ผู้ที่มีการติดเชื้อบริเวณที่จะทำ

ผู้ที่มีปัญหาการแข็งตัวของเลือด

ผู้ที่แพ้ส่วนประกอบของไหม

ผู้ที่มีโรคภูมิแพ้ตัวเอง

สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร

ความแตกต่างระหว่างการร้อยไหมและการผ่าตัดดึงหน้า

การร้อยไหมเป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด

ระยะพักฟื้นสั้นกว่า

ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นานเท่าการผ่าตัด

มีความเสี่ยงน้อยกว่า

ราคาถูกกว่า

การเตรียมตัวด้านจิตใจ

ตั้งความคาดหวังให้สมเหตุสมผล

เข้าใจว่าผลลัพธ์จะค่อยๆ ดีขึ้นในช่วง 1-3 เดือน

เตรียมพร้อมสำหรับการดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่อง

การร้อยไหมคอและใต้คางเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อยและคางสองชั้นโดยไม่ต้องผ่าตัด การปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลตัวเองทั้งก่อนและหลังทำจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนต่างๆ