ร้อยไหมยกกระชับหน้าได้จริงไหม
- วันวิสาข์ 2540
- 19 มิ.ย.
- ยาว 1 นาที
การร้อยไหมยกกระชับหน้า (Thread Lift) เป็นหัตถการทางการแพทย์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นทางเลือกที่ไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ แต่สามารถช่วยยกกระชับผิวหน้าที่หย่อนคล้อยได้ บทความนี้จะให้ข้อมูลละเอียดเกี่ยวกับการร้อยไหม ประสิทธิภาพ ขั้นตอน และการดูแลตัวเองทั้งก่อนและหลังทำ
การร้อยไหมยกกระชับหน้า เป็นวิธีการใช้ไหมพิเศษที่ละลายได้ (บางชนิดไม่ละลาย) สอดเข้าไปใต้ผิวหนังโดยใช้เข็มหรือแคนนูลา (cannula) เพื่อยกและกระชับผิวหนังที่หย่อนคล้อย ไหมเหล่านี้มีโครงสร้างพิเศษ เช่น มีขอเล็กๆ (barbs) ที่ช่วยยึดเกาะเนื้อเยื่อและดึงให้ผิวตึงขึ้น
ประเภทของไหมที่ใช้
ไหม PDO (Polydioxanone): ละลายได้ภายใน 6-8 เดือน นิยมใช้มากที่สุด
ไหม PLLA (Poly-L-Lactic Acid): ละลายได้ช้ากว่า ประมาณ 12-18 เดือน
ไหม PCL (Polycaprolactone): ละลายได้ช้าที่สุด ประมาณ 2-3 ปี
ไหมไม่ละลาย: มีความคงทนถาวร แต่มีความเสี่ยงสูงกว่า
รูปแบบของไหม
ไหมเกลียว (Twisted): ช่วยกระชับและเพิ่มความหนาแน่นของผิว
ไหมหนาม (Barbed): มีหนามเล็กๆ ช่วยยึดเกาะเนื้อเยื่อและยกกระชับได้ดี
ไหมรูปตัว V หรือ Y: ออกแบบพิเศษเพื่อยกกระชับได้มากขึ้น
ไหมโคน (Cog): มีขอเกี่ยวที่แข็งแรง ยกกระชับได้มากกว่าแบบอื่น
การร้อยไหมได้ผลจริงหรือไม่?
การร้อยไหมสามารถช่วยยกกระชับผิวหน้าได้จริง แต่มีข้อควรพิจารณาดังนี้:
ข้อดีของการร้อยไหม
ฟื้นตัวเร็ว: ใช้เวลาฟื้นตัวน้อยกว่าการผ่าตัดดึงหน้า (1-3 วัน 2-3 สัปดาห์)
ไม่มีแผลผ่าตัด: มีเพียงรอยเข็มเล็กๆ ที่หายได้เร็ว
กระตุ้นคอลลาเจน: ไหมช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามแนวที่ร้อย
เสี่ยงน้อย: มีความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนน้อยกว่าการผ่าตัดใหญ่
ทำซ้ำได้: สามารถทำซ้ำได้เมื่อผลลัพธ์เริ่มจางลง
ข้อจำกัด
ผลไม่ถาวร: ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 1-3 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของไหม
ไม่เหมาะกับผิวหย่อนคล้อยมาก: เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยระดับเล็กถึงปานกลาง
ผลลัพธ์ไม่เท่าการผ่าตัด: ไม่สามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีเท่ากับการผ่าตัดดึงหน้า
บริเวณที่นิยมร้อยไหม
แก้ม: ช่วยยกกระชับแก้มที่หย่อนคล้อย
คาง และกราม: ช่วยกำหนดเส้นกรามให้ชัดเจนขึ้น
คิ้ว และหางตา: ช่วยยกคิ้วและแก้ไขหางตาตก
คอ: ช่วยลดความหย่อนคล้อยบริเวณคอ
ร่องแก้ม (Nasolabial folds): ลดร่องแก้มที่ลึก
ขั้นตอนการร้อยไหม
การเตรียมตัว: ทำความสะอาดผิวและทายาชาเฉพาะที่
การร้อยไหม: แพทย์จะใช้เข็มหรือแคนนูลาสอดไหมเข้าไปใต้ผิวหนัง
การจัดตำแหน่ง: ดึงและจัดตำแหน่งไหมให้เหมาะสม เพื่อยกกระชับผิว
การตัดไหม: ตัดส่วนปลายไหมที่เหลือออก
การทำความสะอาด: ทำความสะอาดบริเวณที่ร้อยไหม
ทั้งหมดนี้ใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที ขึ้นอยู่กับจำนวนไหมและบริเวณที่ทำ
การดูแลตัวเองก่อนทำการร้อยไหม
2 สัปดาห์ก่อนทำ
งดยาต้านการแข็งตัวของเลือด: เช่น แอสไพริน วาร์ฟารินงดอาหารเสริม: วิตามินอี น้ำมันปลา กระเทียม ขิง โสม
งดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Retinol หรือ AHA: เพื่อลดความระคายเคืองผิว
1 สัปดาห์ก่อนทำ
งดการฉีดโบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์: เพื่อให้แพทย์เห็นสภาพผิวที่แท้จริง
งดการทำทรีทเมนต์ผิวหน้า: เช่น เลเซอร์ เคมีพีล ไมโครเดิร์มาเบรชั่น
24-48 ชั่วโมงก่อนทำ
งดดื่มแอลกอฮอล์: เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำ
งดสูบบุหรี่: เพื่อให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น
พักผ่อนให้เพียงพอ: เพื่อให้ร่างกายพร้อมสำหรับการฟื้นตัว
ดื่มน้ำให้เพียงพอ: เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น
การดูแลตัวเองหลังทำการร้อยไหม
24 ชั่วโมงแรก
ประคบเย็น: ประคบเย็นบริเวณที่มีอาการบวมหรือช้ำ (ห้ามกดแรง)
นอนหงาย: หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหรือตะแคง
ยกศีรษะสูง: นอนหนุนหมอนสูงเพื่อลดอาการบวม
งดการสัมผัสหรือกดบริเวณที่ร้อยไหม
1 สัปดาห์แรก
งดการนวดหน้า: หลีกเลี่ยงการนวดหรือกดบริเวณที่ร้อยไหม
ล้างหน้าเบาๆ: ล้างหน้าอย่างนุ่มนวล ไม่ถูแรงๆ
งดการออกกำลังกายหนัก: หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ทำให้เลือดสูบฉีดแรง
งดอาบน้ำร้อน: ใช้น้ำอุ่นแทนเพื่อลดการขยายตัวของเส้นเลือด
งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
งดการเคี้ยวอาหารแข็ง: รับประทานอาหารอ่อนนุ่ม
หลีกเลี่ยงการแสดงสีหน้าที่เกินจำเป็น: เช่น หัวเราะหรือยิ้มกว้างเกินไป
2-4 สัปดาห์
งดการทำทรีทเมนต์ใบหน้า: เช่น เลเซอร์ อัลทร้าซาวด์ หรือการนวดหน้า
หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด: ทาครีมกันแดด SPF 50+ และสวมหมวกเมื่อออกแดด
งดการใช้ซาวน่าหรือห้องอบไอน้ำ: เพื่อป้องกันการขยายตัวของเส้นเลือด
ทานยาตามที่แพทย์สั่ง: เช่น ยาแก้ปวด ยาปฏิชีวนะ
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
รอยช้ำและบวม: พบได้บ่อย มักหายภายใน 1-2 สัปดาห์
อาการเจ็บหรือไม่สบาย: มักหายภายใน 3-5 วัน
การติดเชื้อ: พบได้น้อย มักมีอาการปวด บวม แดง มีหนอง
ไหมโผล่: เกิดจากการร้อยไหมตื้นเกินไป
ความไม่สมมาตร: อาจเกิดจากการยกกระชับไม่เท่ากันทั้งสองข้าง
การอักเสบ: ผิวแดง ร้อน บวม
การเคลื่อนตัวของไหม: ทำให้เกิดรอยย่นหรือบุ๋มบนผิวหนัง
คำแนะนำเพิ่มเติม
เลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ: ควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์และความชำนาญในการร้อยไหม
ตรวจสอบคุณภาพไหม: ควรใช้ไหมที่ได้มาตรฐานและได้รับการรับรอง
เข้าใจข้อจำกัด: เข้าใจว่าการร้อยไหมไม่สามารถให้ผลลัพธ์เทียบเท่าการผ่าตัด
ติดตามผล: ควรไปพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามผล
ดูแลสุขภาพผิว: ทาครีมบำรุงและครีมกันแดดเป็นประจำ
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: อาหารที่มีโปรตีนและวิตามินซีช่วยในการสร้างคอลลาเจน
ดื่มน้ำให้เพียงพอ: ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและเร่งการฟื้นตัว
Comments