ร้อยไหมอันตรายไหม
- วันวิสาข์ 2540
- 26 มิ.ย.
- ยาว 2 นาที
1. ภาวะแทรกซ้อนระยะสั้น (พบบ่อย)
รอยช้ำและบวม
เกิดขึ้นได้ 80-90% ของผู้รับการรักษา
สาเหตุ: เกิดจากการบาดเจ็บของเส้นเลือดฝอยระหว่างการสอดไหม
ระยะเวลา: มักหายภายใน 7-14 วัน
ความรุนแรง: ส่วนใหญ่เป็นเพียงเล็กน้อยถึงปานกลาง
ความเจ็บปวด
เกิดขึ้นได้ 70-80% ของผู้รับการรักษา
สาเหตุ: การบาดเจ็บของเนื้อเยื่อและการอักเสบ
ระยะเวลา: มักหายภายใน 3-7 วัน
ความรุนแรง: ส่วนใหญ่เป็นเพียงเล็กน้อยถึงปานกลาง
ผิวแดง
เกิดขึ้นได้ 60-70% ของผู้รับการรักษา
สาเหตุ: การอักเสบของผิวหนังบริเวณที่ทำ
ระยะเวลา: มักหายภายใน 3-5 วัน
ความรุนแรง: ส่วนใหญ่เป็นเพียงเล็กน้อย
2. ภาวะแทรกซ้อนระยะกลาง (พบได้บ้าง)
ไหมทะลุผิวหนัง (Thread Extrusion)
อัตราการเกิด: 5-8% ของผู้รับการรักษา
สาเหตุ: การวางไหมตื้นเกินไป หรือการเคลื่อนไหวของไหมหลังทำ
อาการ: มองเห็นหรือรู้สึกถึงปลายไหมที่โผล่ออกมาจากผิวหนัง
การรักษา: อาจต้องตัดไหมส่วนที่โผล่ออกมา หรือนำไหมออกทั้งหมด
ผิวไม่เรียบ (Skin Irregularities)
อัตราการเกิด: 3-7% ของผู้รับการรักษา
สาเหตุ: การจัดวางไหมไม่สม่ำเสมอ หรือการหดตัวของเนื้อเยื่อ
อาการ: ผิวเป็นคลื่น มีรอยบุ๋ม หรือนูน
การรักษา: อาจต้องนวดเบาๆ หรือในบางกรณีต้องนำไหมออก
การอักเสบ (Inflammation)
อัตราการเกิด: 2-5% ของผู้รับการรักษา
สาเหตุ: ปฏิกิริยาของร่างกายต่อวัสดุของไหม
อาการ: บวมแดง ร้อน และปวดบริเวณที่ร้อยไหม
การรักษา: ยาต้านการอักเสบ ยาปฏิชีวนะ หรือสเตียรอยด์เฉพาะที่
3. ภาวะแทรกซ้อนรุนแรง (พบได้น้อย)
การติดเชื้อ (Infection)
อัตราการเกิด: น้อยกว่า 1% ของผู้รับการรักษา
สาเหตุ: การปนเปื้อนเชื้อระหว่างการทำหัตถการ หรือการดูแลแผลไม่ดี
อาการ: บวม แดง มีหนอง มีไข้ ปวดรุนแรง
การรักษา: ยาปฏิชีวนะ อาจต้องนำไหมออก หรือระบายหนอง
การบาดเจ็บของเส้นประสาท (Nerve Injury)
อัตราการเกิด: น้อยกว่า 0.5% ของผู้รับการรักษา
สาเหตุ: การสอดไหมใกล้เส้นประสาทสำคัญ
อาการ: ชา อ่อนแรง หรือเคลื่อนไหวใบหน้าผิดปกติ
การรักษา: ส่วนใหญ่หายได้เอง แต่บางกรณีอาจต้องนำไหมออก
การอุดตันของหลอดเลือด (Vascular Occlusion)
อัตราการเกิด: น้อยกว่า 0.1% ของผู้รับการรักษา
สาเหตุ: การสอดไหมกระทบหลอดเลือดสำคัญ
อาการ: ผิวซีด เขียว หรือเปลี่ยนสี ปวดรุนแรง
การรักษา: ฉุกเฉิน ต้องพบแพทย์ทันที
การเตรียมตัวก่อนร้อยไหม (ละเอียดที่สุด)
4 สัปดาห์ก่อนทำ
ปรึกษาแพทย์อย่างละเอียด
ตรวจสอบประวัติการแพ้ย
แจ้งโรคประจำตัวทุกชนิด
แจ้งยาที่รับประทานประจำ
แจ้งประวัติการทำหัตถการความงามก่อนหน้า
เตรียมผิวให้พร้อม
เริ่มใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของวิตามินซี
ใช้ครีมกันแดดทุกวัน SPF 50+
งดทรีทเมนต์ที่ทำให้ผิวบาง เช่น เลเซอร์ เคมีพีล
2 สัปดาห์ก่อนทำ
งดยาและอาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
ยาต้านการอักเสบ: แอสไพริน, ไอบูโพรเฟน, นาโพรเซน
อาหารเสริม: วิตามิน E, น้ำมันปลา, กระเทียม, ขิง, โสม
สมุนไพร: แปะก๊วย, สาหร่ายสไปรูลินา, น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส
ปรับพฤติกรรม
ลดการดื่มแอลกอฮอล์: งดดื่มอย่างน้อย 2 สัปดาห์
งดสูบบุหรี่: บุหรี่ทำให้การหายของแผลช้าลงและเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ
ดื่มน้ำมากขึ้น: อย่างน้อย 2-3 ลิตรต่อวัน
การดูแลผิว
งดผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ:
กรด AHA/BHA เรตินอล/เรตินอยด์
ไฮโดรควิโนน
เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์1 สัปดาห์ก่อนทำ
งดทรีทเมนต์ผิวหน้าทุกชนิด งดนวดหน้า งดทำเลเซอร์ทุกชนิด
งดทำทรีทเมนต์ที่กระตุ้นผิว งดไมโครเดิร์มาเบรชั่น
เตรียมร่างกาย
พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน
รับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง
หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด
ดื่มน้ำมากๆ
เตรียมสภาพจิตใจ
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการทำ
เตรียมคำถามที่ต้องการถามแพทย์
ตั้งความคาดหวังที่สมเหตุสมผล
3 วันก่อนทำ
การเตรียมผิวเฉพาะ
ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวอ่อนโยน
หลีกเลี่ยงการขัดผิว
ทาครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของเซราไมด์เพื่อเสริมความแข็งแรงให้ผิว
หลีกเลี่ยงการโดนแดด
หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดนานๆ
สวมหมวกและใช้ร่มเมื่อออกนอกบ้าน
ทาครีมกันแดด SPF 50+ ทุก 2 ชั่วโมง
วันก่อนทำ
การทำความสะอาดร่างกาย
อาบน้ำให้สะอาด
ล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์อ่อนโยน
ไม่ทาเครื่องสำอางใดๆ
ไม่ใช้น้ำหอมหรือโคโลญจน์
การเตรียมความพร้อมอื่นๆ
เตรียมเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย กระดุมหน้า ไม่ต้องดึงผ่านศีรษะ
เตรียมหมอนรองคอสำหรับนอนยกศีรษะสูง
เตรียมถุงน้ำแข็งหรือเจลเย็นสำหรับประคบ
เตรียมอาหารอ่อนๆ ไว้รับประทาน 2-3 วันหลังทำ
วันทำหัตถการ
ก่อนออกจากบ้าน
อาบน้ำให้สะอาด
ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆ
ไม่ทาเครื่องสำอางใดๆ ทั้งสิ้น
รับประทานอาหารเบาๆ (ไม่ควรอดอาหาร)
สิ่งที่ควรนำไปด้วย
บัตรประชาชนหรือเอกสารแสดงตัวตน
ประวัติการแพ้ยา (ถ้ามี)
รายการยาที่รับประทานประจำ
แว่นตากันแดด (สำหรับใส่กลับบ้าน)
ผ้าพันคอหรือหมวกเพื่อปกปิดรอยช้ำ (ถ้าต้องการ)
การดูแลตัวเองหลังร้อยไหม (ละเอียดที่สุด)
24 ชั่วโมงแรก (วิกฤติ)
การประคบเย็น
ประคบเย็นบริเวณที่มีอาการบวม 15-20 นาที
ทำซ้ำทุก 1-2 ชั่วโมง
ห่อถุงน้ำแข็งด้วยผ้าสะอาด ไม่วางน้ำแข็งโดยตรงบนผิว
ประคบจนถึงก่อนนอน
การนอนและพักผ่อน
นอนหงายเท่านั้น
ยกศีรษะสูง 30-45 องศา โดยใช้หมอน 2-3 ใบ
หลีกเลี่ยงการนอนตะแคงหรือคว่ำโดยเด็ดขาด
พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 ชั่วโมง
การรับประทานยา
รับประทานยาแก้ปวดตามที่แพทย์สั่ง ตรงเวลา
รับประทานยาปฏิชีวนะให้ครบตามกำหนด (ถ้ามี)
รับประทานยาลดบวม (ถ้ามี)
จดบันทึกเวลาที่รับประทานยาแต่ละครั้ง
การรับประทานอาหาร
รับประทานอาหารเหลวหรืออ่อนนุ่ม
หลีกเลี่ยงการเคี้ยวมาก
ดื่มน้ำมากๆ อย่างน้อย 2-3 ลิตร
หลีกเลี่ยงอาหารร้อนจัด
สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาด
ไม่สัมผัสหรือกดบริเวณที่ร้อยไหม
ไม่แปรงฟันแรงๆ
ไม่อ้าปากกว้าง
ไม่ยิ้มหรือหัวเราะมากเกินไป
ไม่รับประทานอาหารที่ต้องเคี้ยวมาก
วันที่ 2-7 (ระยะฟื้นฟู)
การทำความสะอาดใบหน้า
เริ่มล้างหน้าได้เบาๆ ด้วยน้ำสะอาด
ใช้คลีนเซอร์อ่อนโยน ไม่มีส่วนผสมของกรด
ไม่ขัดหรือถูแรงๆ
ซับหน้าให้แห้งเบาๆ ไม่ถูหรือเช็ด
การบำรุงผิว
ใช้ครีมบำรุงผิวที่แพทย์แนะนำ
ทาครีมกันแดด SPF 50+ ทุกวัน แม้อยู่ในบ้าน
หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ:
กรด AHA/BHA
เรตินอล
วิตามินซีความเข้มข้นสูง
สารลอกผิว
การนอน
ยังคงนอนหงายยกศีรษะสูง
ใช้หมอนข้างประคองศีรษะเพื่อป้องกันการพลิกตัว
หลีกเลี่ยงการนอนกดทับบริเวณที่ร้อยไหม
กิจกรรมที่ทำได้
เดินเบาๆ ในบ้าน
ทำงานเบาๆ ที่ไม่ต้องก้มหน้า
อ่านหนังสือ ดูทีวี ในท่าที่ไม่ก้มคอ
สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง
งดการออกกำลังกายทุกชนิด
งดการยกของหนัก
งดการก้มหน้านานๆ
งดการสระผมเอง (ควรให้คนอื่นช่วย)
งดการอาบน้ำร้อน
งดการเข้าซาวน่า อบไอน้ำ
งดการดื่มแอลกอฮอล์
งดการสูบบุหรี่
สัปดาห์ที่ 2 (ระยะฟื้นฟูต่อเนื่อง)
การดูแลผิว
เริ่มใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวปกติได้ ยกเว้นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดหรือสารลอกผิว
ทาครีมกันแดด SPF 50+ ทุก 2 ชั่วโมงเมื่ออยู่กลางแจ้ง
เริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเปปไทด์เพื่อกระตุ้นคอลลาเจน
การรับประทานอาหาร
เริ่มรับประทานอาหารปกติได้ แต่ยังควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ต้องเคี้ยวมาก
รับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง
รับประทานผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง
ดื่มน้ำมากๆ อย่างน้อย 2 ลิตรต่อวัน
กิจกรรมที่ทำได้
เริ่มเดินออกกำลังกายเบาๆ ได้
เริ่มทำงานปกติที่ไม่หนักได้
สามารถขับรถได้ แต่ควรระวังการหันศีรษะ
สิ่งที่ยังต้องหลีกเลี่ยง
งดการออกกำลังกายหนัก
งดการวิ่ง กระโดด
งดการนวดหน้า
งดทรีทเมนต์ผิวหน้าทุกชนิด
งดการอบซาวน่า
งดการดื่มแอลกอฮอล์
สัปดาห์ที่ 3-4 (ระยะฟื้นฟูขั้นสุดท้าย)
การดูแลผิว
เริ่มใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวได้ตามปกติ
เริ่มใช้วิตามินซีเซรั่มความเข้มข้นต่ำได้
ยังคงต้องทาครีมกันแดด SPF 50+ ทุกวัน
เริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอลความเข้มข้นต่ำได้ (หลังสัปดาห์ที่ 4)
กิจกรรมที่ทำได้
เริ่มออกกำลังกายได้ แต่ยังควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกสูง
เริ่มทำงานได้ตามปกติ
เริ่มสระผมได้ตามปกติ
สิ่งที่ยังต้องหลีกเลี่ยง
งดการนวดหน้าแรงๆ
งดทรีทเมนต์ผิวหน้าที่รุนแรง เช่น เลเซอร์ เคมีพีลความเข้มข้นสูง
งดการดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมาก
เดือนที่ 2-3 (ระยะคงสภาพ)
การดูแลผิว
สามารถใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวได้ตามปกติ
เริ่มทำทรีทเมนต์ผิวหน้าเบาๆ ได้ เช่น:
วิตามินซีเซรั่ม
เมโสเธอราพี
ไมโครเดิร์มาเบรชั่น
ยังคงต้องทาครีมกันแดด SPF 50+ ทุกวัน
กิจกรรมที่ทำได้
สามารถทำกิจกรรมได้ตามปกติ
สามารถออกกำลังกายได้ตามปกติ
สามารถนวดหน้าเบาๆ ได้
การติดตามผล
พบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามผล
ถ่ายภาพเปรียบเทียบก่อนและหลังทำ
ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการทำซ้ำหรือการทำทรีทเมนต์เสริม
อาการผิดปกติที่ต้องรีบพบแพทย์
อาการฉุกเฉิน (ต้องพบแพทย์ทันที)
อาการปวดรุนแรงผิดปกติ
ปวดแบบเต้นตุบๆ ไม่ทุเลา
ปวดรุนแรงจนรบกวนการนอน
ปวดมากขึ้นเรื่อยๆ แทนที่จะลดลง
อาการบวมรุนแรงผิดปกติ
บวมมากจนดูผิดรูป บวมที่เพิ่มขึ้นหลังจาก 48 ชั่วโมง
บวมที่ลามไปยังบริเวณอื่น การเปลี่ยนแปลงของสีผิว ผิวเปลี่ยนเป็นสีซีดขาว
Comentarios