ร้อยไหมเหมาะกับใคร

ร้อยไหมเหมาะกับใคร: คู่มือฉบับสมบูรณ์

📋 สารบัญ

กลุ่มที่เหมาะสมกับการร้อยไหมกลุ่มที่ไม่เหมาะกับการร้อยไหม

การเตรียมตัวก่อนร้อยไหมการดูแลตัวเองหลังร้อยไหมคำถามที่พบบ่อย

กลุ่มที่เหมาะสมกับการร้อยไหม

1. ผู้ที่มีอายุระหว่าง 30-55 ปี

การร้อยไหมเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เริ่มมีสัญญาณของความเสื่อมตามวัย แต่ยังไม่รุนแรงมากพอที่จะต้องทำศัลยกรรม ช่วงอายุนี้มักพบปัญหา:

ผิวเริ่มหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง

คอลลาเจนและอีลาสตินในผิวเริ่มลดลงริ้วรอยเริ่มปรากฏชัดเจนขึ้น

2. ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยระดับเริ่มต้นถึงปานกลาง

แก้มตก: ผู้ที่แก้มเริ่มมีการหย่อนคล้อย ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเพลียหรือโทรม

เหนียงหรือใต้คาง: มีไขมันสะสมหรือผิวหย่อนคล้อยบริเวณใต้คาง

ร่องแก้มลึก: มีร่องแก้มที่ลึกขึ้นเนื่องจากการเสื่อมของเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง

หนังตาตกเล็กน้อย: เปลือกตาเริ่มมีการหย่อนคล้อย แต่ยังไม่มากพอที่จะต้องทำศัลยกรรม3. ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า

ต้องการใบหน้าเรียว: ผู้ที่ต้องการใบหน้าทรง V-Shape โดยไม่ต้องผ่าตัด

ต้องการยกกรอบหน้า: ผู้ที่กรอบหน้าไม่ชัดเจนและต้องการเพิ่มความคมชัด

ต้องการลดความกว้างของใบหน้า: ผู้ที่มีใบหน้ากว้างและต้องการให้ดูเรียวขึ้น

4. ผู้ที่มีริ้วรอยระดับเริ่มต้นถึงปานกลาง

ริ้วรอยรอบดวงตา: ผู้ที่มีรอยเท้ากาหรือริ้วรอยรอบดวงตา

ริ้วรอยร่องแก้ม: ผู้ที่มีร่องแก้มลึกขึ้นเนื่องจากอายุ

ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก: ผู้ที่มีรอยเหี่ยวย่นบริเวณหน้าผาก

5. ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วและเห็นผลทันที

มีงานสำคัญในอนาคตอันใกล้: เช่น งานแต่งงาน งานรับปริญญา หรืองานสำคัญทางสังคม

ไม่มีเวลาพักฟื้นนาน: เหมาะสำหรับผู้ที่มีตารางงานยุ่ง ไม่สามารถหยุดพักเพื่อฟื้นตัวจากการผ่าตัดได้

ต้องการผลลัพธ์ทันที: การร้อยไหมให้ผลลัพธ์ที่เห็นได้ทันทีหลังทำ

6. ผู้ที่มีปัญหาใบหน้าไม่สมมาตร

ใบหน้าซีกหนึ่งหย่อนคล้อยมากกว่า: เช่น แก้มข้างหนึ่งตกมากกว่าอีกข้าง

คิ้วไม่เท่ากัน: คิ้วข้างหนึ่งตกมากกว่าอีกข้าง

มุมปากไม่เท่ากัน: มุมปากข้างหนึ่งตกมากกว่าอีกข้าง

7. ผู้ที่ต้องการทางเลือกที่ไม่ใช่การผ่าตัด

กลัวการผ่าตัด: ผู้ที่มีความกังวลเกี่ยวกับการดมยาสลบหรือการผ่าตัด

ต้องการหัตถการที่มีความเสี่ยงต่ำ: การร้อยไหมมีความเสี่ยงน้อยกว่าการผ่าตัด

ต้องการการฟื้นตัวที่รวดเร็ว: ไม่ต้องการพักฟื้นนานเหมือนการผ่าตัด

8. ผู้ที่ต้องการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว

ต้องการฟื้นฟูผิวจากภายใน: การร้อยไหมไม่เพียงยกกระชับ แต่ยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนรอบๆ เส้นไหม

ต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ: ผลลัพธ์ที่ได้จะดูเป็นธรรมชาติมากกว่าการผ่าตัด

ต้องการปรับปรุงคุณภาพผิว: นอกจากการยกกระชับ ยังช่วยให้ผิวดูเต่งตึงและมีสุขภาพดีขึ้น

กลุ่มที่ไม่เหมาะกับการร้อยไหม

1. ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด

โรคเลือดออกง่าย: เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดเลือดออกและรอยช้ำ

โรคภูมิแพ้ตัวเอง: เช่น SLE หรือ Lupus ซึ่งอาจทำให้เกิดการอักเสบรุนแรง

โรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้: อาจส่งผลต่อการหายของแผลและเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

โรคผิวหนังบางชนิด: เช่น โรคสะเก็ดเงิน หรือโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรัง

2. ผู้ที่มีสภาวะพิเศษ

ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร: ควรรอให้พ้นช่วงนี้ก่อนทำการร้อยไหม

มีการติดเชื้อในบริเวณใบหน้า: เช่น สิวอักเสบรุนแรง หรือแผลเปิด

มีแนวโน้มการเกิดคีลอยด์หรือแผลเป็นนูน: อาจทำให้เกิดแผลเป็นที่ไม่พึงประสงค์

มีความผิดปกติของระบบประสาทใบหน้า: เช่น โรคใบหน้ากระตุก

3. ผู้ที่ใช้ยาบางประเภท

ยาละลายลิ่มเลือด: เช่น แอสไพริน วาร์ฟาริน

ยาสเตียรอยด์: อาจส่งผลต่อการหายของแผลและการสร้างคอลลาเจน

ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs): เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดรอยช้ำ

4. ผู้ที่มีความคาดหวังสูงเกินไป

ต้องการแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อยรุนแรง: การร้อยไหมไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก

ต้องการผลลัพธ์เทียบเท่าการผ่าตัด: การร้อยไหมให้ผลลัพธ์ที่น้อยกว่าการผ่าตัดยกกระชับใบหน้า

คาดหวังผลลัพธ์ถาวร: การร้อยไหมให้ผลลัพธ์ที่ไม่ถาวร ต้องทำซ้ำทุก 1-3 ปี

5. ผู้ที่มีผิวบางมากหรือมีไขมันใต้ผิวน้อยเกินไป

ผิวบางมาก: อาจทำให้มองเห็นเส้นไหมได้จากภายนอก

ไขมันใต้ผิวน้อยเกินไป: อาจทำให้เส้นไหมไม่สามารถยึดเกาะได้ดี

ผิวเหี่ยวย่นมาก: อาจต้องใช้วิธีอื่นร่วมด้วย เช่น ฟิลเลอร์

6. ผู้ที่อายุน้อยเกินไปหรือมากเกินไป

อายุต่ำกว่า 25 ปี: ยังไม่มีความจำเป็นต้องทำ เนื่องจากยังไม่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย

อายุมากกว่า 65 ปี: ผิวอาจหย่อนคล้อยมากเกินกว่าที่การร้อยไหมจะให้ผลลัพธ์ที่ดี

การเตรียมตัวก่อนร้อยไหม

2-4 สัปดาห์ก่อนทำ

งดยาและอาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด

แอสไพริน และยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs)วิตามินอี (ขนาดสูง)

น้ำมันปลา และโอเมก้า 3สมุนไพรบางชนิด เช่น โสม กิงโก้ กระเทียมงดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารกรด

กรด AHA (Alpha Hydroxy Acids)กรด BHA (Beta Hydroxy Acids)

กรดวิตามินเอ (เรตินอล, เรตินอยด์)งดการทำทรีตเมนต์ใบหน้าที่รุนแรง

เลเซอร์

IPL (Intense Pulsed Light)

การลอกผิว (Chemical Peel)

ไมโครเดอร์มาเบรชั่น

1-2 สัปดาห์ก่อนทำ

งดแอลกอฮอล์และบุหรี่

แอลกอฮอล์ทำให้เลือดบางลง เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดรอยช้ำ

บุหรี่ลดการไหลเวียนของเลือด ส่งผลต่อการหายของแผล เพิ่มการดูแลผิว

ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของวิตามินซี

ทาครีมกันแดด SPF 50+ ทุกวัน

ดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวันเริ่มรับประทานอาหารที่ช่วยลดการอักเสบ

อาหารที่มีวิตามินซีสูง: ส้ม กีวี พริกหวาน

อาหารที่มีโปรตีนคุณภาพดี: ปลา ไข่ เนื้อไก่

อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ: ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ถั่ว ผักใบเขียว

3 วันก่อนทำ

งดการออกกำลังกายหนัก

เพื่อลดการไหลเวียนของเลือดที่มากเกินไป หลีกเลี่ยงการยกของหนัก

งดการออกกำลังกายที่ต้องก้มศีรษะ เช่น โยคะบางท่า

หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรง ใช้ร่ม หมวก หรือแว่นกันแดด

ทาครีมกันแดดทุก 2-3 ชั่วโมง พักผ่อนให้เพียงพอ

นอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง ลดความเครียด

วันทำหัตถการ

ล้างหน้าให้สะอาดใช้คลีนเซอร์อ่อนโยนงดการแต่งหน้า

งดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์

สวมเสื้อผ้าที่สบายเสื้อผ้าที่ถอดใส่ง่าย ไม่ต้องดึงผ่านศีรษะ

หลีกเลี่ยงเครื่องประดับที่อาจเกี่ยวติดกับผม

เตรียมข้อมูลสุขภาพ ประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัว ยาที่รับประทานอยู่ในปัจจุบันประวัติการทำศัลยกรรมหรือหัตถการบริเวณใบหน้ามาถึงคลินิกก่อนเวลานัดหมาย

เพื่อให้มีเวลาในการซักประวัติและถ่ายภาพก่อนทำเตรียมคำถามที่ต้องการถามแพทย์ การดูแลตัวเองหลังร้อยไหม

24 ชั่วโมงแรก ประคบเย็น

ใช้ถุงน้ำแข็งห่อผ้าสะอาด ประคบบริเวณที่บวม 15-20 นาที ทุก 1-2 ชั่วโมง

ไม่ประคบโดยตรงบนผิวหนังประคบเฉพาะบริเวณที่บวม ไม่ใช่ทั่วใบหน้า

นอนศีรษะสูง ใช้หมอน 2-3 ใบรองศีรษะให้สูงกว่าระดับหัวใจหลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหรือตะแคงพยายามนอนหงายตลอดคืน

งดการสัมผัสใบหน้าห้ามจับ บีบ นวด หรือถูบริเวณที่ร้อยไหมล้างหน้าเบาๆ ด้วยน้ำสะอาด ไม่ต้องใช้คลีนเซอร์

ซับหน้าเบาๆ ไม่ถูหรือขัด รับประทานยาตามแพทย์สั่ง ยาแก้ปวด ยาปฏิชีวนะ (ถ้ามี) ยาลดการอักเสบ งดแต่งหน้า งดการใช้เครื่องสำอางทุกชนิด งดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์

งดการใช้ผ้าเช็ดหน้าที่มีสารเคมี งดอาหารและเครื่องดื่มที่ร้อนจัด หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่มีอุณหภูมิสูงดื่มน้ำเปล่าอุณหภูมิห้องให้เพียงพอ

วันที่ 2-7

ล้างหน้าเบาๆใช้คลีนเซอร์อ่อนโยน ไม่มีสารกรดล้างด้วยน้ำอุณหภูมิห้อง ไม่ร้อนหรือเย็นเกินไปซับหน้าเบาๆ ด้วยผ้าสะอาด

ทาครีมกันแดด ใช้ครีมกันแดด SPF 50+ ทุกวัน แม้อยู่ในร่มเลือกครีมกันแดดที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมงหากอยู่กลางแจ้ง งดการแสดงสีหน้ามากเกินไป หลีกเลี่ยงการยิ้มกว้าง หัวเราะมาก หรือเคี้ยวอาหารที่แข็ง พูดน้อยลง

หลีกเลี่ยงการขมวดคิ้วหรือขยับใบหน้ามากเกินไป

งดออกกำลังกาย งดการออกกำลังกายทุกชนิด งดการยกของหนัก

งดกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมากงดการสัมผัสความร้อน

งดการอบซาวน่า งดการอาบน้ำร้อน

งดการใช้เครื่องเป่าผมเป่าใกล้ใบหน้า

งดการใช้เครื่องอบไอน้ำใบหน้า

รับประทานอาหารอ่อน

เลือกอาหารที่เคี้ยวง่ายหลีกเลี่ยงอาหารที่ต้องอ้าปากกว้าง เช่น แฮมเบอร์เกอร์ขนาดใหญ่

สัปดาห์ที่ 2

เริ่มใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เซรั่มวิตามินซี (เริ่มใช้ในความเข้มข้นต่ำก่อน)

ไฮยาลูรอนิก แอซิด เซรั่ม

ครีมบำรุงที่ไม่มีส่วนผสมของสารกรด

เริ่มออกกำลังกายเบาๆ เดินช้าๆ ยืดเส้นเบาๆหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ต้องก้มศีรษะ

เริ่มแต่งหน้าเบาๆ ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่อุดตันรูขุมขน

หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่ต้องถูหรือกดแรงๆ

ล้างเครื่องสำอางออกเบาๆ

ดูแลรอยช้ำ (ถ้ามี) ทาครีมลดรอยช้ำตามคำแนะนำของแพทย์ หลีกเลี่ยงการนวดบริเวณที่มีรอยช้ำ