ร้อยไหมแบบไหนดี

การร้อยไหม: ประเภท ข้อมูลละเอียด และการดูแลตัวเองอย่างครบถ้วน

ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการร้อยไหม

การร้อยไหม (Thread Lift) เป็นหัตถการความงามแบบไม่ผ่าตัด (Non-surgical) ที่ช่วยยกกระชับใบหน้าและผิวที่หย่อนคล้อย โดยใช้ไหมพิเศษสอดใต้ผิวหนังเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและช่วยยกกระชับโครงสร้างใบหน้า

กลไกการทำงานของไหม

การยกกระชับทันที - ไหมจะทำหน้าที่เป็นโครงสร้างรองรับและยกผิวขึ้นทันทีหลังทำหัตถการ

การกระตุ้นคอลลาเจน - ไหมจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินเพิ่มขึ้นรอบๆ บริเวณที่ร้อยไหม

การปรับโครงสร้าง - เมื่อเวลาผ่านไป ไหมจะค่อยๆ ละลายแต่คอลลาเจนใหม่จะยังคงอยู่ ทำให้ผิวกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

ประเภทของไหมที่ใช้ในการร้อยไหม

1. ไหม PDO (Polydioxanone)

ไหม PDO เป็นไหมละลายที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ทำจากวัสดุที่ใช้ในการผ่าตัดทางการแพทย์มานานกว่า 30 ปี

คุณสมบัติ:ละลายได้เองภายใน 6-8 เดือนกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดี

มีความปลอดภัยสูง ไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาแพ้

ประเภทของไหม PDO:

ก. ไหมโมโน (Mono Threads)

ลักษณะ: เป็นไหมเส้นตรง ไม่มีเงี่ยง

ประโยชน์: กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพิ่มความแน่นให้ผิว ลดริ้วรอยเล็กๆ

บริเวณที่เหมาะสม: รอบดวงตา ใต้ตา คอ หน้าผาก

ผลลัพธ์: ผิวเรียบเนียนขึ้น ริ้วรอยตื้นขึ้น ไม่เน้นการยกกระชับ

ระยะเวลาผลลัพธ์: 4-8 เดือน

ข. ไหมเงี่ยง/ไหมหนาม (Cog Threads)

ลักษณะ: มีเงี่ยงหรือหนามเล็กๆ ตลอดเส้นไหม

ประโยชน์: ยกกระชับผิวได้ชัดเจน เหมาะกับผิวที่หย่อนคล้อย

บริเวณที่เหมาะสม: แก้ม คาง กรอบหน้า คิ้ว

ผลลัพธ์: ยกกระชับใบหน้าได้ชัดเจน ปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้นระยะเวลาผลลัพธ์: 12-18 เดือนไหม 3D COG: มีเงี่ยงแบบ 360 องศา ยกกระชับได้ดีมาก

ไหม 4D COG: มีเงี่ยงหนาแน่นกว่า ยกกระชับได้มากขึ้น

ไหม 8D COG: รุ่นใหม่ที่มีเงี่ยงแบบพิเศษ ยกกระชับได้ดีที่สุด

ค. ไหมเกลียว (Screw/Tornado Threads)

ลักษณะ: เป็นไหมที่พันกันเป็นเกลียว

ประโยชน์: เพิ่มวอลุ่ม เติมเต็มร่องลึก

บริเวณที่เหมาะสม: ร่องแก้ม รอยตีนกา ริ้วรอยรอบปาก

ผลลัพธ์: ผิวเต่งตึง เติมเต็มร่องลึก

ระยะเวลาผลลัพธ์: 6-12 เดือน

ง. ไหมตาข่าย (Mesh Threads)

ลักษณะ: เป็นไหมที่ถักเป็นตาข่าย

ประโยชน์: กระชับรูขุมขน เพิ่มความแน่นให้ผิว

บริเวณที่เหมาะสม: แก้ม หน้าผาก

ผลลัพธ์: ผิวเนียนละเอียด รูขุมขนกระชับ

ระยะเวลาผลลัพธ์: 4-8 เดือน

2. ไหม PLLA (Poly-L-Lactic Acid)

คุณสมบัติ: ละลายช้ากว่า PDO (12-18 เดือน) กระตุ้นคอลลาเจนได้มากกว่า

ประโยชน์: ยกกระชับได้นานกว่า เหมาะกับผิวที่หย่อนคล้อยมาก

ข้อควรระวัง: ราคาสูงกว่า PDO อาจเกิดอาการบวมนานกว่า

3. ไหม PCL (Polycaprolactone)

คุณสมบัติ: ละลายช้าที่สุด (18-24 เดือน) กระตุ้นคอลลาเจนได้นานที่สุด

ประโยชน์: ผลลัพธ์ยาวนานที่สุด ยกกระชับได้มากที่สุด

ข้อควรระวัง: ราคาสูงมาก อาจเกิดอาการข้างเคียงได้มากกว่า

4. ไหมทองคำ (Gold Threads)

คุณสมบัติ: เป็นไหมที่เคลือบด้วยทองคำ

ประโยชน์: ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพิ่มความกระจ่างใส

ข้อควรระวัง: มีความเสี่ยงสูงกว่าไหมชนิดอื่น ไม่ค่อยนิยมในปัจจุบัน

การเลือกประเภทไหมให้เหมาะกับปัญหาผิวสำหรับริ้วรอยเล็กน้อย

แนะนำ: ไหมโมโน (Mono Threads)เหตุผล: กระตุ้นคอลลาเจนได้ดี ไม่ก่อให้เกิดอาการบวมมากสำหรับผิวหย่อนคล้อยปานกลาง

แนะนำ: ไหมเงี่ยง (Cog Threads) แบบ 3D หรือ 4D

เหตุผล: ยกกระชับได้ชัดเจน ผลลัพธ์อยู่ได้นาน

สำหรับผิวหย่อนคล้อยมากแนะนำ: ไหม PCL หรือไหมเงี่ยง

เหตุผล: ยกกระชับได้มากที่สุด ผลลัพธ์อยู่ได้นานที่สุด

สำหรับร่องลึกและริ้วรอยชัดเจน

แนะนำ: ไหมเกลียว (Screw Threads) ร่วมกับไหมเงี่ยง

เหตุผล: เติมเต็มร่องลึกและยกกระชับในเวลาเดียวกัน

การเตรียมตัวก่อนร้อยไหม (อย่างละเอียด)

2 สัปดาห์ก่อนทำ

งดอาหารเสริมและยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด

แอสไพริน วิตามินอี น้ำมันปลา

สมุนไพรจีน เช่น โสม, แปะก๊วย ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs งดแอลกอฮอล์

แอลกอฮอล์ทำให้เลือดไหลเวียนมากขึ้น เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำ

งดผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอล (Retinol) หรือกรดผลไม้ (AHA/BHA)

อาจทำให้ผิวบอบบางและระคายเคืองง่าย

1 สัปดาห์ก่อนทำ

เพิ่มการรับประทานอาหารที่มีวิตามินซีและโปรตีน

ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนและเร่งการฟื้นตัวดื่มน้ำให้เพียงพอ (อย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน)

ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ลดความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำ

งดการนวดหน้าหรือทรีตเมนต์ที่กระตุ้นผิวหน้า

เช่น เลเซอร์ อัลตร้าซาวด์ หรือการขัดผิว

3 วันก่อนทำ

งดการออกกำลังกายหนักลดการไหลเวียนเลือดที่มากเกินไป

หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรงป้องกันการอักเสบและระคายเคืองผิว

งดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์บนผิวหน้า

เช่น โทนเนอร์ที่มีแอลกอฮอล์

1 วันก่อนทำ

ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยน

ใช้คลีนเซอร์ที่อ่อนโยน ไม่มีส่วนผสมของกรดหรือสารกัดเคือง

นอนหลับให้เพียงพอ (อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง)

ช่วยให้ร่างกายและผิวพร้อมสำหรับการทำหัตถการ งดการแต่งหน้า ให้ผิวได้พักและหายใจ

วันทำหัตถการ

มาถึงคลินิกก่อนเวลานัดอย่างน้อย 30 นาที

เผื่อเวลาสำหรับการทำความสะอาดผิวและทายาชาสวมเสื้อผ้าที่สบาย ไม่รัดรูป

ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายระหว่างทำหัตถการ

งดการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน

คาเฟอีนอาจทำให้เลือดไหลเวียนมากขึ้น เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำ

แจ้งแพทย์หากมีความกังวลหรือคำถามใดๆ

การสื่อสารที่ดีช่วยให้การทำหัตถการเป็นไปอย่างราบรื่น

การดูแลตัวเองหลังร้อยไหม (อย่างละเอียด)

ทันทีหลังทำหัตถการ - 24 ชั่วโมงแรกประคบเย็น

ประคบเย็นบริเวณที่มีอาการบวมหรือช้ำ ครั้งละ 15-20 นาที ทุก 1-2 ชั่วโมง

ใช้ผ้าสะอาดห่อน้ำแข็ง ไม่วางน้ำแข็งบนผิวโดยตรง

นอนศีรษะสูง นอนโดยใช้หมอน 2-3 ใบรองศีรษะให้สูงกว่าระดับหัวใจช่วยลดอาการบวมและช้ำ

งดการสัมผัสหรือนวดบริเวณที่ร้อยไหม

การสัมผัสหรือนวดอาจทำให้ไหมเคลื่อนตำแหน่งรับประทานยาตามแพทย์สั่ง

ยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการติดเชื้อ

ยาแก้ปวดหากมีอาการปวด

งดการแต่งหน้า

อาจทำให้เกิดการติดเชื้อที่รูเข็ม

2-7 วันหลังทำหัตถการ

ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยน

ใช้คลีนเซอร์ที่อ่อนโยน ไม่มีส่วนผสมของกรดหรือสารกัดเคือง

ล้างหน้าโดยใช้มือลูบเบาๆ ไม่ถู ไม่ขัด

งดการออกกำลังกายหนัก

งดการออกกำลังกายที่ทำให้เหงื่อออกมาก หรือต้องก้มศีรษะ

เดินเบาๆ สามารถทำได้

งดการนอนคว่ำหน้านอนหงายหรือนอนตะแคงเบาๆ เพื่อไม่ให้กดทับบริเวณที่ร้อยไหม

หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารที่แข็งหรือเหนียวเลือกรับประทานอาหารที่นุ่ม เคี้ยวง่ายงดหมากฝรั่งหลีกเลี่ยงการแสดงสีหน้าที่มากเกินไป

เช่น การหัวเราะหรือยิ้มกว้างมากๆ อาจทำให้ไหมเคลื่อนตัว

งดการสัมผัสความร้อน งดการอบไอน้ำ ซาวน่า จากุซซี่

งดการใช้เครื่องเป่าผมเป่าบริเวณใบหน้า

ทาครีมกันแดด SPF 50+ ทุกครั้งที่ออกจากบ้าน

แม้จะอยู่ในร่ม หรือวันที่มีเมฆมากทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง1-2 สัปดาห์หลังทำหัตถการ

เริ่มใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของวิตามินซี

ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและลดรอยช้ำ

เริ่มออกกำลังกายเบาๆ ได้

เช่น เดิน โยคะเบาๆยังคงงดการออกกำลังกายหนัก การวิ่ง หรือการยกน้ำหนักสามารถแต่งหน้าเบาๆ ได้

ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่อุดตันรูขุมขนล้างหน้าให้สะอาดก่อนนอนทุกครั้ง

ดื่มน้ำให้เพียงพอ (อย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน)

ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น เร่งการฟื้นตัว3-4 สัปดาห์หลังทำหัตถการ

เริ่มใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของเปปไทด์ (Peptides)

ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพิ่มเติมสามารถออกกำลังกายได้ตามปกติ

แต่ยังควรระวังการออกกำลังกายที่ต้องก้มศีรษะนานๆสามารถนวดหน้าเบาๆ ได้

นวดเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือด แต่หลีกเลี่ยงบริเวณที่ร้อยไหม

รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว

อาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น ปลา ไข่ เต้าหู้

อาหารที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม กีวี พริกหวาน

อาหารที่มีวิตามินอีสูง เช่น อัลมอนด์ เมล็ดทานตะวัน

อาหารที่มีโอเมก้า-3 เช่น ปลาแซลมอน เมล็ดเจีย

1-3 เดือนหลังทำหัตถการ

ตรวจติดตามผลกับแพทย์ตามนัด

แพทย์จะประเมินผลลัพธ์และอาจแนะนำการดูแลเพิ่มเติมสามารถทำทรีตเมนต์ผิวหน้าเบาๆ ได้

เช่น วิตามินซีเซรั่ม, ไฮดร้าเฟเชียล

ยังควรงดทรีตเมนต์ที่รุนแรง เช่น เลเซอร์, อัลตร้าซาวด์

ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนิก แอซิด

ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและทำให้ผิวเต่งตึงดูแลสุขภาพโดยรวม นอนหลับให้เพียงพอ

ลดความเครียด งดสูบบุหรี่

4-6 เดือนหลังทำหัตถการสามารถทำทรีตเมนต์ผิวหน้าได้ตามปกติ รวมถึงเลเซอร์, อัลตร้าซาวด์, ไมโครนีดลิ้ง

แต่ควรแจ้งผู้ให้บริการว่าเคยร้อยไหมมาก่อน

สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอล (Retinol) ได้

ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและลดริ้วรอย

ประเมินผลลัพธ์และวางแผนการดูแลระยะยาว

หากพอใจกับผลลัพธ์ ควรวางแผนการดูแลผิวเพื่อยืดระยะเวลาผลลัพธ์

หากต้องการผลลัพธ์เพิ่มเติม อาจปรึกษาแพทย์เรื่องการร้อยไหมเพิ่มเติม

ข้อควรระวังและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

ผลข้างเคียงที่พบบ่อย

อาการบวม พบได้บ่อยที่สุด มักหายภายใน 3-7 วัน

การประคบเย็นและนอนศีรษะสูงช่วยลดอาการได้ รอยช้ำ

พบได้บ่อย โดยเฉพาะในผู้ที่ผิวบอบบาง มักหายภายใน 7-14 วัน

ครีมหรือเจลที่มีส่วนผสมของ Arnica Montana อาจช่วยลดรอยช้ำได้

อาการปวด/แสบ/ร้อน มักเกิดในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก

รับประทานยาแก้ปวดตามที่แพทย์สั่ง ความไม่สมมาตร

อาจพบได้ในช่วงแรก เนื่องจากอาการบวมมักดีขึ้นเมื่ออาการบวมลดลง

ผลข้างเคียงที่พบไม่บ่อย

การติดเชื้อ

พบได้น้อยมาก หากปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลแผล

หากมีอาการปวด บวม แดง ร้อน หรือมีหนองไหล ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที

ไหมทะลุผิวหนัง

ไหมอาจดันตัวออกมาทางผิวหนัง

ไม่ควรดึงไหมออกเอง ควรปรึกษาแพทย์การเคลื่อนตัวของไหม

อาจทำให้เกิดความไม่สมมาตรหรือรอยนูนใต้ผิวหนัง

แพทย์อาจแก้ไขโดยการนวดหรือปรับตำแหน่งไหม

อาการชา

มักเกิดชั่วคราว หายได้เองภายใน 2-4 สัปดาห์

หากอาการไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์

สรุป: การเลือกประเภทไหมที่เหมาะสม

การเลือกประเภทไหมที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่:

สภาพผิวและปัญหาที่ต้องการแก้ไขผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย: