ร้อยไหม มีกี่แบบ
- วันวิสาข์ 2540
- 1 ก.ค.
- ยาว 2 นาที
การร้อยไหมเป็นหัตถการทางความงามที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากให้ผลลัพธ์การยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด มีหลายประเภทให้เลือกตามความเหมาะสมกับปัญหาผิวและความต้องการของแต่ละบุคคล
1. ไหมละลาย PDO (Polydioxanone)
คุณสมบัติ:
เป็นไหมที่ทำจากวัสดุละลายได้ทางการแพทย์ที่ใช้ในการเย็บแผลผ่าตัด
ละลายเองในร่างกายภายใน 6-8 เดือน
ผลลัพธ์ของการยกกระชับอยู่ได้นาน 1-2 ปี
ไม่ต้องผ่าตัดเอาออก
ประเภทย่อย:
ไหม Mono (Mono Thread) - เป็นไหมเส้นเดี่ยวเรียบ ไม่มีเงี่ยง
เน้นกระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนัง
เหมาะสำหรับผิวบาง ริ้วรอยเล็กน้อย หรือต้องการเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว
ไม่เน้นการยกกระชับมาก แต่เน้นการฟื้นฟูผิว
ไหมเงี่ยง (Barbed Thread/Cog Thread) - มีเงี่ยงเล็กๆ รอบเส้นไหม
เงี่ยงช่วยยึดเกาะเนื้อเยื่อได้ดีให้ผลยกกระชับชัดเจนกว่าไหม Mono
เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยปานกลาง
ไหมก้างปลา (Cog Thread) - มีเงี่ยงขนาดใหญ่คล้ายก้างปลา
ให้ผลยกกระชับชัดเจนทันทีเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก
สามารถปรับรูปหน้าได้ชัดเจน เช่น ยกแก้ม ลดเหนียง กระชับกรามให้เรียว
ไหมสกรู (Screw Thread) - มีลักษณะเป็นเกลียวช่วยเพิ่มปริมาตรและความหนาของผิว
เหมาะสำหรับเติมเต็มร่องแก้ม หรือบริเวณที่ต้องการเพิ่มปริมาตร
2. ไหม PCL (Polycaprolactone)
คุณสมบัติ:
เป็นไหมที่มีความยืดหยุ่นสูงกว่า PDO
ละลายช้ากว่า PDO (12-18 เดือน)
ผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 2-3 ปี
กระตุ้นคอลลาเจนได้มากกว่า PDO
ประเภทย่อย:มีทั้งแบบเรียบ แบบเงี่ยงและเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานและชัดเจน
3. ไหม PLLA (Poly-L-Lactic Acid)
คุณสมบัติ:ทำจากกรดแลคติกที่ละลายได้กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้มากกว่า PDO และ PCL
ละลายช้ากว่า (18-24 เดือน)ผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 3-4 ปี
การใช้งาน:
เหมาะสำหรับการฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพมากช่วยเพิ่มความหนาและความยืดหยุ่นของผิว
4. ไหมทองคำ (Gold Thread)
คุณสมบัติ:
ทำจากทองคำบริสุทธิ์ 99.99%ไม่ละลาย (อยู่ในร่างกายถาวร)ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน
มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ
การใช้งาน:
เน้นการฟื้นฟูผิว เพิ่มความกระจ่างใส
ไม่เน้นการยกกระชับ
ปัจจุบันไม่ค่อยนิยมเนื่องจากมีทางเลือกอื่นที่มีประสิทธิภาพดีกว่า
5. ไหมไม่ละลาย (Non-absorbable Thread)
คุณสมบัติ:
ทำจากวัสดุที่ไม่ละลาย เช่น โพลีเอสเตอร์ หรือโพลีโพรพิลีน
อยู่ในร่างกายได้ถาวร (อาจต้องเอาออกหากมีปัญหา)
ให้ผลยกกระชับที่อยู่ได้นานกว่าไหมละลาย
การใช้งาน:
เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก
ต้องการผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานมากกว่า 3 ปี
ปัจจุบันไม่ค่อยนิยมเนื่องจากมีความเสี่ยงสูงกว่าไหมละลาย
การเลือกประเภทไหมที่เหมาะสม
การเลือกประเภทไหมควรพิจารณาจากปัจจัยต่อไปนี้:
1. อายุและสภาพผิว
อายุ 30-40 ปี ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย: ไหม Mono หรือไหมเงี่ยงขนาดเล็ก
อายุ 40-50 ปี ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยปานกลาง: ไหมเงี่ยงหรือไหม PCL
อายุ 50 ปีขึ้นไป ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก: ไหมก้างปลาหรือไหม PLLA
2. ตำแหน่งที่ต้องการร้อย
แก้ม: ไหมเงี่ยงหรือไหมก้างปลา เพื่อยกกระชับ
คาง/เหนียง: ไหมก้างปลา เพื่อกระชับและลดไขมัน
คิ้ว/หางตา: ไหมเงี่ยงขนาดเล็ก เพื่อยกคิ้วและลดรอยตีนกา
ร่องแก้ม: ไหมสกรู เพื่อเติมเต็ม
3. ผลลัพธ์ที่ต้องการ
ยกกระชับชัดเจน: ไหมก้างปลา หรือไหม PCL
ฟื้นฟูผิว: ไหม Mono หรือไหมทองคำ
ผลลัพธ์ระยะยาว: ไหม PLLA หรือไหม PCL
การเตรียมตัวก่อนร้อยไหม
1. การเตรียมตัวล่วงหน้า 2 สัปดาห์
งดการใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด: เช่น แอสไพริน วาร์ฟาริน หรือยากลุ่ม NSAIDs
งดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Retinol หรือ AHA/BHA: เพื่อลดความไวของผิว
งดการใช้อาหารเสริม: วิตามิน E, Fish Oil, Ginkgo Biloba, Garlic Supplement
แจ้งประวัติการแพ้ยา: โดยเฉพาะยาชาเฉพาะที่
2. การเตรียมตัวล่วงหน้า 1 สัปดาห์
งดการทำทรีทเมนต์ผิวหน้า: เช่น เลเซอร์ ปิลลิ่ง หรือการฉีดโบท็อกซ์/ฟิลเลอร์
งดการนวดหน้า: เพื่อป้องกันการเกิดรอยช้ำ
งดการดื่มแอลกอฮอล์: เพื่อลดโอกาสการเกิดรอยช้ำและการอักเสบ
งดการสูบบุหรี่: เพื่อให้การฟื้นตัวของผิวดีขึ้น
3. การเตรียมตัวก่อนวันทำหัตถการ 24 ชั่วโมง
พักผ่อนให้เพียงพอ: อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง
ดื่มน้ำให้เพียงพอ: เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น
ล้างหน้าให้สะอาด: ไม่ควรแต่งหน้ามาคลินิก
สวมเสื้อผ้าที่สวมใส่สะดวก: เปิดคอหรือกระดุมหน้า เพื่อไม่ให้เสื้อผ้าเสียดสีกับใบหน้าหลังทำหัตถการ
4. วันทำหัตถการ
มาถึงคลินิกก่อนเวลานัด: เพื่อให้มีเวลาทำความสะอาดผิวและทายาชา
รับประทานอาหารมาให้เรียบร้อย: แต่ไม่ควรอิ่มมากเกินไป
แจ้งแพทย์หากมีอาการเป็นไข้หรือไม่สบาย: อาจต้องเลื่อนการทำหัตถการ
เตรียมหมวกหรือผ้าคลุม: เพื่อป้องกันแสงแดดหลังทำหัตถการ
การดูแลตัวเองหลังร้อยไหม
1. 24 ชั่วโมงแรก
ประคบเย็น: ประคบเย็นเป็นระยะ ครั้งละ 10-15 นาที เพื่อลดอาการบวมและช้ำ
นอนหงาย: ยกศีรษะให้สูงกว่าลำตัวเล็กน้อย เพื่อลดอาการบวม
งดการสัมผัสหรือกดบริเวณที่ร้อยไหม: เพื่อป้องกันไหมเคลื่อน
รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง: ยาแก้ปวด ยาลดบวม หรือยาปฏิชีวนะงดการแต่งหน้า: เพื่อลดการระคายเคืองและการติดเชื้อ
2. 1-7 วันแรก
งดการนวดหรือกดบริเวณที่ร้อยไหม: เพื่อป้องกันไหมเคลื่อน
หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารแข็ง: รับประทานอาหารอ่อนนุ่ม
งดการแสดงสีหน้าที่มากเกินไป: เช่น หัวเราะดังๆ อ้าปากกว้าง
งดการออกกำลังกายหนัก: เพื่อป้องกันการเพิ่มความดันเลือดที่จะทำให้เกิดรอยช้ำ
หลีกเลี่ยงความร้อน: งดการอบซาวน่า อบไอน้ำ หรือแช่น้ำร้อน
หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด: สวมหมวก ใช้ร่ม และทาครีมกันแดด SPF 50+
3. 1-2 สัปดาห์
ทำความสะอาดใบหน้าอย่างอ่อนโยน: ใช้คลีนเซอร์ที่อ่อนโยน ไม่มีส่วนผสมของกรด
ทาครีมบำรุงที่อ่อนโยน: หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Retinol, AHA/BHA
งดการนอนคว่ำ: นอนหงายหรือตะแคงเล็กน้อย
งดการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่: เพื่อให้การฟื้นตัวดีขึ้น
งดการใช้หลอดดูด: เพราะการดูดจะทำให้กล้ามเนื้อใบหน้าเคลื่อนไหวมาก
4. 2-4 สัปดาห์
สามารถกลับมาใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวปกติได้: แต่ควรเริ่มทีละตัว
สามารถออกกำลังกายเบาๆ ได้: แต่ยังควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก
สามารถนวดหน้าเบาๆ ได้: แต่ควรหลีกเลี่ยงบริเวณที่ร้อยไหม
ควรกลับไปพบแพทย์ตามนัด: เพื่อตรวจติดตามผลการรักษา
5. 1-3 เดือน
สามารถทำทรีทเมนต์ผิวหน้าได้: เช่น เลเซอร์ ปิลลิ่ง (ควรปรึกษาแพทย์ก่อน)
สามารถฉีดโบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์ได้: (ควรปรึกษาแพทย์ก่อน)
ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ: อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: เน้นอาหารที่มีคอลลาเจน วิตามิน C และโปรตีน
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นและการแก้ไข
1. อาการปกติหลังร้อยไหม (ไม่ต้องกังวล)
อาการบวม: มักเกิดขึ้น 1-3 วันแรก และค่อยๆ ลดลง
รอยช้ำ: อาจเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะในคนที่เลือดแข็งตัวช้า จะหายภายใน 1-2 สัปดาห์
รู้สึกตึงหรือแน่น: เป็นเรื่องปกติในช่วงแรก จะค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์
รู้สึกเจ็บเล็กน้อย: โดยเฉพาะเมื่อขยับใบหน้ามาก
2. อาการผิดปกติที่ควรปรึกษาแพทย์
อาการบวมที่เพิ่มขึ้นหลังจาก 3 วัน: อาจเกิดจากการติดเชื้อ
เจ็บปวดรุนแรง: โดยเฉพาะเมื่อมีอาการแดงร่วมด้วย
มีหนองหรือสิ่งคัดหลั่งออกมา: อาจเกิดจากการติดเชื้อ
ไหมทะลุผิวหนัง: เห็นเส้นไหมโผล่ออกมาจากผิวหนัง
ใบหน้าไม่สมมาตร: หลังจากอาการบวมลดลงแล้ว
3. การแก้ไขผลข้างเคียง
การติดเชื้อ: ต้องพบแพทย์เพื่อรับยาปฏิชีวนะ อาจต้องเอาไหมออกในบางกรณีไหมทะลุผิวหนัง: แพทย์อาจตัดไหมส่วนที่โผล่ออกมา หรือเอาไหมออกทั้งเส้น
ใบหน้าไม่สมมาตร: อาจต้องร้อยไหมเพิ่มเติมเพื่อปรับแก้
รอยช้ำที่นานเกินไป: อาจใช้เลเซอร์ช่วยลดรอยช้ำ
เทคนิคการร้อยไหมที่ทันสมัย
1. เทคนิค Vector Lifting
ร้อยไหมตามแนวเวกเตอร์ที่ตรงข้ามกับแรงโน้มถ่วง
ให้ผลยกกระชับที่เป็นธรรมชาติเหมาะสำหรับการยกแก้มและกรอบหน้า
2. เทคนิค Mesh Technique
ร้อยไหมแบบตาข่ายเพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้างผิวเหมาะสำหรับผิวที่บางและหย่อนคล้อย
3. เทคนิค 3D Lifting
ร้อยไหมในหลายระดับความลึกให้ผลยกกระชับแบบสามมิติ
เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก
4. เทคนิค Sandwich Techniqueร้อยไหมหลายชนิดผสมกัน
เช่น ร้อยไหม Mono เป็นฐาน แล้วร้อยไหมก้างปลาทับให้ผลทั้งยกกระชับและฟื้นฟูผิว
Comments