ร้อยไหมCollagen
- วันวิสาข์ 2540
- 7 วันที่ผ่านมา
- ยาว 1 นาที
ร้อยไหมคอลลาเจน เป็นเทคนิคเสริมความงามที่ช่วยยกกระชับผิวหน้าและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว โดยใช้เส้นไหมที่มีส่วนประกอบของ คอลลาเจน หรือวัสดุที่สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในร่างกาย เช่น PDO (Polydioxanone), PLLA (Poly-L-Lactic Acid) หรือ PCL (Polycaprolactone) ซึ่งไหมเหล่านี้สามารถละลายได้เองในร่างกายและช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อใหม่ที่แข็งแรง
ประโยชน์ของร้อยไหมคอลลาเจน
ยกกระชับผิวหน้า
แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ร่องแก้มลึก และกรอบหน้าที่ไม่ชัดเจน
กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
ช่วยให้ผิวฟื้นฟูและดูอ่อนเยาว์จากภายในลดเลือนริ้วรอย
ริ้วรอยเล็กๆ ร่องลึก และรอยเหี่ยวย่นจะดูจางลงปรับรูปหน้า
ทำให้ใบหน้าดูเรียว กระชับ และมีมิติมากขึ้น
เพิ่มความยืดหยุ่นของผิวผิวจะดูเต่งตึงและกระชับมากขึ้น
ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติใบหน้าดูอ่อนเยาว์โดยไม่ดูแข็งหรือผิดธรรมชาติ
ฟื้นฟูผิวเสีย
ช่วยซ่อมแซมผิวที่ถูกทำร้ายจากแสงแดดหรือมลภาวะ
ตำแหน่งที่นิยมร้อยไหมคอลลาเจน
แก้ม - ยกกระชับแก้มที่หย่อนคล้อย
กรอบหน้า - ปรับรูปหน้าให้เรียวและชัดเจน
คาง - กระชับผิวใต้คางและลดปัญหาคางสองชั้น
คอ - แก้ไขปัญหาผิวคอหย่อนคล้อย
หน้าผาก - ลดริ้วรอยและยกคิ้วรอบดวงตา - ยกหางตาและลดริ้วรอยรอบดวงตา
จมูก - เสริมทรงจมูกให้โด่งและเรียวขึ้น
ขั้นตอนการร้อยไหมคอลลาเจน
1. การปรึกษาแพทย์
วิเคราะห์ปัญหาผิว: แพทย์จะประเมินระดับความหย่อนคล้อยและสภาพผิว
การวางแผนตำแหน่งร้อยไหม: กำหนดจุดที่ต้องการยกกระชับ
การเลือกชนิดของไหม: ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ต้องการแก้ไขและผลลัพธ์ที่คาดหวัง
การถ่ายภาพก่อนทำ: เพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์หลังทำ
2. การเตรียมตัวก่อนทำ
ทำความสะอาดใบหน้า: ล้างหน้าให้สะอาดและฆ่าเชื้อ
การใช้ยาชา: ทายาชาเฉพาะที่ หรือฉีดยาชาเพื่อลดความเจ็บปวด
การวาดตำแหน่ง: แพทย์จะทำเครื่องหมายบนผิวเพื่อกำหนดจุดสอดไหม
3. ขั้นตอนการร้อยไหม
การสอดเข็มนำไหม: ใช้เข็มพิเศษนำเส้นไหมเข้าสู่ชั้นผิว
การจัดตำแหน่งไหม: ปรับตำแหน่งไหมให้เหมาะสม
การดึงไหม: ดึงไหมเพื่อยกกระชับผิวการตัดปลายไหม: ตัดส่วนปลายไหมที่เกินออกการปิดแผล: ใช้พลาสเตอร์ขนาดเล็กปิดจุดที่สอดไหม
4. ระยะเวลาในการทำ
ใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที ขึ้นอยู่กับจำนวนไหมและตำแหน่งที่ร้อย
การเตรียมตัวก่อนร้อยไหมคอลลาเจน
2 สัปดาห์ก่อนทำงดยาต้านการแข็งตัวของเลือด
เช่น แอสไพริน, ไอบูโพรเฟน, วาร์ฟารินงดอาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
เช่น วิตามิน E, น้ำมันปลา, โสม, กิงโกะ บิโลบางดแอลกอฮอล์และบุหรี่
เพื่อช่วยให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น
ดื่มน้ำมากๆอย่างน้อย 2-3 ลิตรต่อวัน เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น
1 สัปดาห์ก่อนทำ
งดผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Retinol หรือ AHAs
เพื่อลดความไวของผิว หลีกเลี่ยงการทำทรีตเมนต์ผิว
เช่น เลเซอร์, ปีลลิ่ง, ไมโครเดิร์มาเบรชั่น
หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดนานๆ เพื่อป้องกันการระคายเคืองผิว
1 วันก่อนทำ
ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์อ่อนโยนไม่ควรใช้สครับหรือผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์ระคายเคือง
งดแต่งหน้าเพื่อให้ผิวสะอาดที่สุดในวันทำหัตถการพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง การดูแลตัวเองหลังร้อยไหมคอลลาเจน
24 ชั่วโมงแรกประคบเย็น
ใช้น้ำแข็งห่อผ้าสะอาดประคบบริเวณที่มีอาการบวมหรือช้ำ
ประคบครั้งละ 15-20 นาที ทุก 1-2 ชั่วโมง
นอนหงายศีรษะสูงใช้หมอนรองศีรษะให้สูงกว่าลำตัวงดการสัมผัสใบหน้า
ห้ามกด นวด หรือบีบบริเวณที่ร้อยไหม
งดการแต่งหน้าเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
2-7 วันแรก
หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวใบหน้ามากเกินไป
ลดการพูด หัวเราะ หรือเคี้ยวอาหารแข็ง
ทำความสะอาดใบหน้าเบาๆใช้คลีนเซอร์อ่อนโยน
หลีกเลี่ยงความร้อน
งดการอาบน้ำร้อน, อบซาวน่า, หรือแช่น้ำร้อนทาครีมกันแดด SPF 50+
ทาทุกครั้งที่ออกจากบ้าน
1-2 สัปดาห์เริ่มใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Hyaluronic Acid, Peptides, หรือ Ceramides
หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหรือตะแคงหน้านอนหงายเพื่อลดแรงกดทับบนใบหน้างดการนวดหน้า
รวมถึงการใช้เครื่องนวดหน้าหรืออุปกรณ์กระชับผิวต่างๆ
3-4 สัปดาห์เริ่มออกกำลังกายเบาๆ ได้
เช่น เดินเร็วหรือโยคะเบาๆสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี Retinol ได้
เริ่มจากความเข้มข้นต่ำและค่อยๆ เพิ่มเริ่มทำทรีตเมนต์ผิวเบาๆ ได้เช่น มาส์กหน้า หรือการนวดหน้าเบาๆ
1-3 เดือน
พบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามผลลัพธ์และแก้ไขปัญหา (ถ้ามี)
ดูแลผิวอย่างต่อเนื่อง
ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของคอลลาเจนและวิตามิน Cสังเกตผลลัพธ์ ผลลัพธ์จะชัดเจนขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
อาการผิดปกติที่ควรปรึกษาแพทย์ทันที
อาการบวมที่รุนแรงหรือเพิ่มขึ้น อาการเจ็บปวดรุนแรง มีไข้สูง รอยแดงที่ลามออกไป
มีหนองหรือสารคัดหลั่งรู้สึกว่าไหมทะลุผิวหนังใบหน้าด้านหนึ่งยกสูงกว่าอีกด้านมาก
ข้อควรระวังและข้อห้าม
ผู้ที่ไม่ควรร้อยไหมคอลลาเจนผู้ที่มีโรคภูมิแพ้รุนแรงต่อวัสดุไหมผู้ที่มีโรคเลือดออกง่ายผู้ที่มีการติดเชื้อบริเวณใบหน้าผู้ที่มีโรคผิวหนังบางชนิดหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ข้อควรระวัง
ผู้ที่มีแผลเป็นนูนหรือคีลอยด์ ผู้ที่เพิ่งทำเลเซอร์หรือปีลลิ่ง ผู้ที่มีโรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้
Comentários