Filler อยู่ได้นานเท่าไร
- วันวิสาข์ 2540
- 3 เม.ย.
- ยาว 1 นาที
Filler เป็นการฉีดสารเติมเต็มเข้าสู่ผิวหนังเพื่อช่วยลดเลือนริ้วรอย เพิ่มปริมาตร และปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น โดยทั่วไป Filler ที่ใช้กันมากที่สุดคือ Hyaluronic Acid ซึ่งมีความปลอดภัยและสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ
ระยะเวลาที่ Filler อยู่ได้
ระยะเวลา: Filler สามารถคงอยู่ได้นานตั้งแต่ 6 เดือนถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ได้แก่:
ชนิดของ Filler: ฟิลเลอร์บางชนิดมีความคงทนมากกว่าชนิดอื่น
ตำแหน่งที่ฉีด: บริเวณที่มีการเคลื่อนไหวมากอาจทำให้ฟิลเลอร์สลายได้เร็วขึ้น
การดูแลหลังการฉีด: การดูแลที่เหมาะสมสามารถยืดอายุการใช้งานของฟิลเลอร์ได้
ก่อนการฉีด
หลีกเลี่ยงยาและอาหารเสริม: หลีกเลี่ยงการใช้ยาแอสไพริน, วิตามินอี, และอาหารเสริมบางชนิดที่อาจทำให้เลือดออกง่ายขึ้น ประมาณ 1-2 สัปดาห์ก่อนการฉีด
ปรึกษาแพทย์: แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาที่คุณกำลังใช้และประวัติการแพ้ต่างๆ
หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์: งดการดื่มแอลกอฮอล์ก่อนการฉีดประมาณ 24 ชั่วโมง
หลังการฉีด
หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดนวด: อย่าสัมผัสหรือกดนวดบริเวณที่ฉีดเพื่อป้องกันการเคลื่อนย้ายของฟิลเลอร์
หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก: หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักหรือกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงภายใน 24 ชั่วโมงหลังการฉีด
ดื่มน้ำมากๆ: การดื่มน้ำมากๆ ช่วยให้ฟิลเลอร์คงตัวและทำงานได้ดีขึ้น
หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และความร้อนสูง: หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการสัมผัสความร้อนสูง เช่น ซาวน่า หรือการอาบแดด
Filler เป็นการฉีดสารเติมเต็มเข้าสู่ผิวหนังเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่น ริ้วรอย ร่องลึก หรือเพื่อเพิ่มปริมาตรในบริเวณที่ต้องการ เช่น ริมฝีปากหรือแก้ม โดยส่วนใหญ่ Filler ที่ใช้จะเป็นสาร Hyaluronic Acid ซึ่งมีความปลอดภัยและสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ
ระยะเวลาที่ Filler อยู่ได้
1.ระยะเวลา: Filler สามารถคงอยู่ได้นานตั้งแต่ 6 เดือนถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับ:
2.ชนิดของ Filler: ฟิลเลอร์บางชนิดมีความคงทนมากกว่าชนิดอื่น
3.ตำแหน่งที่ฉีด: บริเวณที่มีการเคลื่อนไหวมากอาจทำให้ฟิลเลอร์สลายได้เร็วขึ้น
4.การดูแลหลังการฉีด: การดูแลที่เหมาะสมสามารถยืดอายุการใช้งานของฟิลเลอร์ได้
1.ฟื้นฟูและปรับรูปหน้า: ช่วยเติมเต็มริ้วรอยและร่องลึก ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น
2.เพิ่มปริมาตร: สามารถเพิ่มความเต็มในบริเวณที่ต้องการ เช่น ริมฝีปาก แก้ม หรือขมับ
3.ผลลัพธ์ทันที: สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังจากการฉีด
5.ไม่ต้องพักฟื้นนาน: หลังการฉีดสามารถกลับไปทำกิจกรรมประจำวันได้ทันที
ข้อเสียของ Filler
1.ผลลัพธ์ไม่ถาวร: เนื่องจาก Filler สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ จึงต้องมีการฉีดซ้ำเมื่อสารสลาย
2.ผลข้างเคียง: อาจเกิดอาการบวม แดง หรือช้ำบริเวณที่ฉีด ซึ่งมักจะหายไปภายในไม่กี่วัน
3.ความเสี่ยงจากการฉีด: หากฉีดโดยผู้ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ อาจเกิดปัญหาต่างๆ เช่น การติดเชื้อ หรือการฉีดผิดตำแหน่ง
4.ค่าใช้จ่าย: การฉีด Filler อาจมีค่าใช้จ่ายสูง โดยเฉพาะเมื่อจำเป็นต้องฉีดซ้ำ
Comments