HYCOOXช่วยให้หน้าใส ฉ่ำวาว อิ่มน้ำได้ไหม
- วันวิสาข์ 2540
- 24 เม.ย.
- ยาว 2 นาที
HYCOOX คืออะไร?
HYCOOX (Hyaluronic Acid Complex Oxygenated) เป็นทรีทเมนท์เพื่อความงามที่ผสมผสานระหว่างไฮยาลูรอนิคแอซิด (Hyaluronic Acid) และออกซิเจน เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวในระดับลึก ไฮยาลูรอนิคแอซิดเป็นสารที่ร่างกายผลิตขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่จะลดลงเมื่ออายุมากขึ้น การทำ HYCOOX จึงเป็นการเติมเต็มสารสำคัญนี้ให้กับผิว
สามารถอุ้มน้ำได้มากถึง 1,000 เท่าของน้ำหนักตัวเอง
มีโมเลกุลที่ออกแบบพิเศษให้ซึมลึกถึงชั้นผิวหนังแท้
เสริมด้วยออกซิเจนที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนและฟื้นฟูเซลล์ผิว
ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองง่าย เนื่องจากเป็นสารที่คล้ายกับที่มีในร่างกาย
1. เพิ่มความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก
เติมน้ำให้ผิวในระดับเซลล์ ทำให้ผิวอิ่มน้ำจากภายใน
แก้ไขปัญหาผิวแห้งกร้าน ลอกเป็นขุย ผิวหมองคล้ำ
ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นได้ยาวนานกว่าการใช้ครีมทั่วไป
2. ลดเลือนริ้วรอยและร่องลึก
เติมเต็มริ้วรอยแรกเริ่มและร่องลึกบนใบหน้า
ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนและอ่อนเยาว์ขึ้น
กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิว เพิ่มความยืดหยุ่น
3. ทำให้ผิวกระจ่างใส ฉ่ำวาว
เพิ่มความกระจ่างใสให้ผิวหน้าดูสว่าง มีออร่าลดความหมองคล้ำและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
ทำให้ผิวดูมีสุขภาพดี เปล่งปลั่ง มีชีวิตชีวา
4. ฟื้นบำรุงผิวที่เสียสมดุล
ช่วยปรับสมดุลความมันและความชุ่มชื้นของผิวลดการระคายเคืองและความแดงของผิว
เหมาะสำหรับผิวที่บอบบางแพ้ง่าย หรือผิวที่ถูกทำร้ายจากสภาพแวดล้อม
เห็นผลทันทีหลังทำ ผิวจะดูอิ่มน้ำ ฉ่ำวาว
ผลลัพธ์ยาวนาน 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลหลังทำ
ไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที
การเตรียมตัวก่อนทำ HYCOOX (อย่างละเอียด)
1. การเตรียมตัว 7-10 วันก่อนทำ
งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด เช่น AHA, BHA, Retinol หรือวิตามินซีความเข้มข้นสูง เพื่อป้องกันการระคายเคืองผิว
งดการขัดหน้า ทั้งแบบสครับและเคมี เพื่อไม่ให้ผิวบอบบาง
งดการทำทรีทเมนท์อื่นๆ เช่น เลเซอร์ IPL หรือการฉีดฟิลเลอร์ ก่อนทำ HYCOOX อย่างน้อย 2 สัปดาห์
ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 2-3 ลิตร เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวจากภายใน
2. การเตรียมตัว 3 วันก่อนทำ
บำรุงผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ ที่อ่อนโยน ไม่มีแอลกอฮอล์หรือน้ำหอม
งดการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะทำให้ผิวขาดน้ำและอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของทรีทเมนท์
งดการสูบบุหรี่ เพราะบุหรี่ทำให้เกิดอนุมูลอิสระและลดประสิทธิภาพของไฮยาลูรอนิค
หลีกเลี่ยงการตากแดด และใช้ครีมกันแดด SPF 50+ เมื่อต้องออกนอกบ้าน
3. การเตรียมตัว 24 ชั่วโมงก่อนทำ
ล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์อ่อนโยน ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์รุนแรง
งดการแต่งหน้า ในวันที่มาทำทรีทเมนท์ เพื่อให้ผิวสะอาดและพร้อมรับการบำรุง
นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง เพื่อให้ผิวอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด
แจ้งแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ หากมีโรคประจำตัว แพ้ยา หรือกำลังรับประทานยาใดๆ
4. สิ่งที่ควรพกไปในวันทำทรีทเมนท์
หมวกปีกกว้าง เพื่อป้องกันแสงแดดหลังทำทรีทเมนท์
แว่นกันแดด ช่วยปกป้องผิวรอบดวงตาที่บอบบาง
เสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย ไม่รัดแน่นจนเกินไป
น้ำดื่มสะอาด เพื่อให้ร่างกายได้รับน้ำอย่างเพียงพอ
ขั้นตอนการทำ HYCOOX โดยละเอียด
1. การวิเคราะห์สภาพผิว
ผู้เชี่ยวชาญจะประเมินสภาพผิว ความชุ่มชื้น ริ้วรอย และปัญหาผิวอื่นๆ
วิเคราะห์ความเหมาะสมในการทำ HYCOOX และความเข้มข้นที่เหมาะกับสภาพผิว
ถ่ายภาพก่อนทำเพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์
2. การทำความสะอาดผิว
ทำความสะอาดผิวหน้าด้วยคลีนเซอร์อ่อนโยนแต่ล้ำลึก
ใช้โทนเนอร์ปรับสภาพผิวให้สมดุล pH
อาจมีการขจัดเซลล์ผิวเก่าด้วยเอนไซม์อ่อนๆ เพื่อให้ HYCOOX ซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น
มีหลายเทคนิคขึ้นอยู่กับสถานเสริมความงามแต่ละแห่ง:
เทคนิค Micro-infusion: ใช้อุปกรณ์พิเศษที่มีเข็มขนาดเล็กมากนำส่งไฮยาลูรอนิคเข้าสู่ชั้นผิว
เทคนิค Electroporation: ใช้กระแสไฟฟ้าความถี่ต่ำเปิดช่องเล็กๆ บนผิวชั่วคราวเพื่อให้สารซึมผ่านได้ดีขึ้น
เทคนิค Ultrasound: ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ช่วยนำพาสารเข้าสู่ชั้นผิวลึก
เทคนิค Oxygen Infusion: ใช้ออกซิเจนความดันสูงพ่นไฮยาลูรอนิคเข้าสู่ผิว
4. การบำรุงเพิ่มเติม
ทาเซรั่มเข้มข้นที่มีส่วนผสมของวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระ
อาจมีการใช้มาส์กหน้าพิเศษที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ HYCOOX
นวดหน้าเบาๆ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนและการดูดซึม
5. การปกป้องผิวหลังทำทรีทเมนท์
ทาครีมปกป้องผิวที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ
ทาครีมกันแดดก่อนออกจากคลินิก
ให้คำแนะนำในการดูแลผิวหลังทำทรีทเมนท์
การดูแลตัวเองหลังทำ HYCOOX (อย่างละเอียด)
1. การดูแลทันทีหลังทำ (24 ชั่วโมงแรก)
งดการแต่งหน้า อย่างน้อย 24 ชั่วโมงแรกหลังทำ เพื่อให้ผิวได้พักฟื้น
หลีกเลี่ยงการสัมผัสหน้า เพื่อป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโรค
หลีกเลี่ยงความร้อน เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ หรืออาบน้ำร้อนจัด
งดการออกกำลังกายหนัก ที่ทำให้เหงื่อออกมาก เพราะอาจทำให้สารซึมออกจากผิว
นอนหงาย และหนุนหมอนสูงเล็กน้อยเพื่อลดอาการบวม
2. การดูแลใน 3 วันแรก
ล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์อ่อนโยน ไม่มีสารลดแบคทีเรียหรือกรด
ทามอยส์เจอไรเซอรที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนิคแอซิดเพื่อเสริมประสิทธิภาพ
ใช้ครีมกันแดด SPF 50+ ทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน แม้แต่ในวันที่มีเมฆมาก
งดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด เช่น AHA, BHA, Retinol
ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2-3 ลิตร เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวจากภายใน
3. การดูแลใน 1-2 สัปดาห์แรก
เริ่มใช้เซรั่มวิตามินซี ในตอนเช้าเพื่อเพิ่มความกระจ่างใสและปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ
ใช้มาส์กหน้าที่เน้นความชุ่มชื้น 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
ยังคงหลีกเลี่ยง การขัดหน้า การใช้สครับ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารที่มีโอเมก้า 3 วิตามินซี และวิตามินอี
นอนหลับให้เพียงพอ อย่างน้อยคืนละ 7-8 ชั่วโมง
4. การดูแลระยะยาว (หลัง 2 สัปดาห์)
เริ่มใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวตามปกติ แต่ควรเน้นผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มความชุ่มชื้น
สามารถเริ่มใช้ Retinol หรือ AHA/BHA ได้อีกครั้ง แต่ควรเริ่มจากความเข้มข้นต่ำ
ทำทรีทเมนท์ HYCOOX ซ้ำ ทุก 1-3 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ
ตรวจสอบผิวอย่างสม่ำเสมอ หากมีความผิดปกติควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ
ปกป้องผิวจากแสงแดด ตลอดเวลา เพราะแสง UV ทำลายไฮยาลูรอนิคในผิว
สูตรอาหารเสริมประสิทธิภาพ HYCOOX
อาหารที่ควรรับประทานเพื่อเสริมผลลัพธ์
อาหารที่มีโอเมก้า 3 สูง: ปลาทะเลน้ำลึก เช่น แซลมอน ปลาทูน่า เมล็ดเจีย วอลนัท
ผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง: ส้ม กีวี พริกหวาน บร็อคโคลี่ สตรอเบอร์รี่
อาหารที่มีวิตามินอี: อัลมอนด์ เมล็ดทานตะวัน น้ำมันมะกอก อะโวคาโด
อาหารที่มีสังกะสี: หอยนางรม เนื้อวัว เมล็ดฟักทอง ถั่วเลนทิล
อาหารที่มีคอลลาเจน: น้ำซุปกระดูก เนื้อปลา ไข่ขาว
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
อาหารที่มีน้ำตาลสูง: ขนมหวาน น้ำอัดลม ขนมขบเคี้ยว
อาหารที่มีโซเดียมสูง: อาหารแปรรูป อาหารกระป๋อง อาหารหมักดอง
แอลกอฮอล์: ทำให้ผิวขาดน้ำและทำลายคอลลาเจน
คาเฟอีนปริมาณมาก: กาแฟ ชา เครื่องดื่มชูกำลัง
อาหารทอด: ทำให้เกิดอนุมูลอิสระและการอักเสบ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ HYCOOX
1. HYCOOX ต่างจากการฉีดฟิลเลอร์อย่างไร?
HYCOOX เป็นการนำส่งไฮยาลูรอนิคเข้าสู่ผิวชั้นตื้นถึงกลาง เน้นการเพิ่มความชุ่มชื้น ในขณะที่ฟิลเลอร์เป็นการฉีดเข้าสู่ชั้นลึกเพื่อเติมเต็มร่องลึกหรือเพิ่มปริมาตร HYCOOX จึงให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติกว่าและมีความเสี่ยงน้อยกว่า
2. HYCOOX เห็นผลนานแค่ไหน?
ผลลัพธ์จะเห็นได้ทันทีหลังทำและจะคงอยู่ประมาณ 1-3 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิว อายุ ไลฟ์สไตล์ และการดูแลผิวหลังทำ ควรทำซ้ำทุก 1-3 เดือนเพื่อรักษาผลลัพธ์
3. มีผลข้างเคียงหรือไม่?
HYCOOX มีความปลอดภัยสูงและมีผลข้างเคียงน้อยมาก อาจพบอาการแดงเล็กน้อย บวม หรือรู้สึกตึงผิวหลังทำ แต่จะหายไปภายใน 24-48 ชั่วโมง หากมีอาการแพ้หรือระคายเคืองรุนแรงควรปรึกษาแพทย์ทันที
4. ใครไม่ควรทำ HYCOOX?
ผู้ที่มีอาการแพ้ไฮยาลูรอนิคแอซิด
ผู้ที่มีโรคผิวหนังเฉียบพลัน เช่น สิวอักเสบรุนแรง เริม หรือโรคสะเก็ดเงิน
ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร (ควรปรึกษาแพทย์)ผู้ที่มีแนวโน้มเป็นแผลเป็นคีลอยด์
ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน
5. HYCOOX เหมาะกับผิวประเภทใดบ้าง?
HYCOOX เหมาะกับทุกประเภทผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม หรือผิวแพ้ง่าย โดยผู้เชี่ยวชาญจะปรับความเข้มข้นและส่วนผสมให้เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
Comments