top of page
ค้นหา

HYCOOX ลดสิว ลดรอยแดง รอยดำจากสิวได้ไหม

เครื่อง HYCOOX เป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยในวงการความงามที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาผิวหลากหลายประเภท รวมถึงปัญหาสิว รอยแดง และรอยดำจากสิว ด้วยการใช้เทคโนโลยีไฮโดรเจนและออกซิเจนบำบัด (Hydrogen-Oxygen Therapy) ร่วมกับแสงบำบัด (Phototherapy) ที่ช่วยฟื้นฟูผิวจากภายในและลดการอักเสบของผิวอย่างมีประสิทธิภาพ

เครื่อง HYCOOX ลดสิวและรอยแดง รอยดำจากสิวได้อย่างไร?

ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย P.acnes: แสง LED สีฟ้าจากเครื่อง HYCOOX มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิวอักเสบ

ลดการอักเสบ: เทคโนโลยีไฮโดรเจนช่วยลดการอักเสบของผิวและลดการเกิดสิวใหม่

ควบคุมความมัน: กระตุ้นการทำงานของต่อมไขมันให้สมดุล ลดความมันส่วนเกินที่เป็นสาเหตุของการอุดตันรูขุมขน

ผลัดเซลล์ผิว: ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ลดการอุดตันในรูขุมขน

2. การลดรอยแดงจากสิว

ลดการอักเสบของผิว: แสง LED สีแดงช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ลดการอักเสบและรอยแดงที่เกิดจากสิว

ฟื้นฟูเซลล์ผิว: เพิ่มการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว ช่วยให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้น

ปรับสมดุลผิว: ช่วยให้ผิวมีสีสม่ำเสมอ ลดรอยแดงจากการอักเสบ

เพิ่มออกซิเจนให้ผิว: ออกซิเจนบำบัดช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดและการส่งออกซิเจนสู่ผิว ช่วยลดรอยแดงและการอักเสบ

3. การลดรอยดำจากสิว

ลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน: เทคโนโลยีไฮโดรเจนและแสง LED สีเหลืองช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานินที่เป็นสาเหตุของรอยดำ

ผลัดเซลล์ผิวที่มีเม็ดสีสะสม: เร่งการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่มีเม็ดสีสะสมและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่

ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ: ช่วยให้รอยดำดูจางลงและผิวหน้าดูกระจ่างใสขึ้น

ต้านอนุมูลอิสระ: ไฮโดรเจนมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการอักเสบและป้องกันการเกิดรอยดำเพิ่ม

กลไกการทำงานของเครื่อง HYCOOX

เทคโนโลยีไฮโดรเจนและออกซิเจนบำบัด

การสร้างไฮโดรเจนโมเลกุลขนาดเล็ก: เครื่องจะแยกน้ำบริสุทธิ์เป็นไฮโดรเจนและออกซิเจน

การนำส่งไฮโดรเจนสู่ผิว: ไฮโดรเจนโมเลกุลขนาดเล็กสามารถซึมผ่านชั้นผิวได้ลึก

การต้านอนุมูลอิสระ: ไฮโดรเจนจับกับอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของการอักเสบและความเสื่อม

การเพิ่มออกซิเจนให้ผิว: ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดและการส่งออกซิเจนสู่เซลล์ผิว

เทคโนโลยีแสงบำบัด (LED Therapy)แสง LED สีฟ้า (415-420 nm): ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย P.acnes ที่เป็นสาเหตุของสิว

แสง LED สีแดง (630-635 nm): กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดการอักเสบ และเร่งการฟื้นฟูผิว

แสง LED สีเหลือง (585-590 nm): ลดรอยแดง รอยดำ และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ

แสง LED สีเขียว (520-525 nm): ลดความมัน ปรับสมดุลผิว และลดรอยแดงวิธีการดูแลตัวเองก่อนและหลังทำ HYCOOX

การเตรียมตัวก่อนทำ HYCOOX

การเตรียมตัวที่เหมาะสมจะช่วยให้การรักษาด้วย HYCOOX มีประสิทธิภาพสูงสุดและลดความเสี่ยงของการระคายเคือง

1. ก่อนทำ 2 สัปดาห์

งดการทำทรีตเมนต์ที่รุนแรง เช่น เลเซอร์, ปีลลิ่ง, RF หรือการใช้เข็มกลิ้ง

งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด เช่น AHA, BHA, Salicylic Acid

งดใช้เรตินอลหรือวิตามินเอ เพื่อป้องกันการระคายเคือง

งดการขัดหรือสครับผิวหน้า เพื่อป้องกันการทำลายชั้นผิวที่อ่อนแอ

แจ้งแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ หากมีประวัติแพ้แสงหรือมีโรคผิวหนัง 2. ก่อนทำ 1 สัปดาห์

เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของเซราไมด์หรือไฮยาลูรอนิก แอซิด

ทาครีมกันแดด SPF 50+ ทุกวัน แม้อยู่ในร่ม เพื่อป้องกันการกระตุ้นเม็ดสี

ดื่มน้ำมากๆ อย่างน้อยวันละ 2-3 ลิตร เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นจากภายใน

รับประทานอาหารที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม กีวี พริกหวาน เพื่อเสริมการต้านอนุมูลอิสระ

งดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้ผิวแห้งและไวต่อการระคายเคือง

3. ก่อนทำ 3 วัน

งดการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะทำให้ผิวแห้งและอาจเพิ่มความไวต่อการระคายเคือง

งดการรับประทานอาหารรสจัด เช่น อาหารรสเผ็ดจัด เค็มจัด ที่อาจกระตุ้นการอักเสบ

นอนให้เพียงพอ อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน เพื่อให้ผิวได้ฟื้นฟู

หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนจัด เพราะจะทำให้ผิวแห้งและไวต่อการระคายเคือง

งดการขัดผิวหรือใช้สครับ เพื่อไม่ให้ผิวบอบบางเกินไป

4. วันที่ทำทรีตเมนต์

ล้างหน้าให้สะอาด ด้วยคลีนเซอร์อ่อนโยน ไม่มีน้ำหอมหรือแอลกอฮอล์

ไม่แต่งหน้ามาทำทรีตเมนต์ เพื่อให้ผิวสะอาดและรับการรักษาได้อย่างเต็มที่

แจ้งผู้เชี่ยวชาญ หากมีประวัติแพ้หรือมีโรคผิวหนัง

ถ่ายรูปผิวก่อนทำ เพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์

สวมเสื้อผ้าที่สบาย และไม่รัดแน่นเกินไป เพื่อความสะดวกในการทำทรีตเมนต์

มาถึงก่อนเวลานัดอย่างน้อย 15 นาที เพื่อให้ผิวปรับตัวกับอุณหภูมิห้อง

การดูแลตัวเองหลังทำ HYCOOX

การดูแลหลังทำ HYCOOX อย่างถูกต้องจะช่วยให้ผลลัพธ์ดีขึ้นและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง

1. ทันทีหลังทำทรีตเมนต์ (24 ชั่วโมงแรก)

ประคบเย็น หากรู้สึกร้อนหรือแดงเล็กน้อย ด้วยผ้าสะอาดชุบน้ำเย็น (ไม่ใช่น้ำแข็งโดยตรง)

ทามอยส์เจอไรเซอร์บางๆ ที่มีส่วนผสมของเซราไมด์ หรือสารสกัดจากว่านหางจระเข้

หลีกเลี่ยงการสัมผัสหน้า เพื่อป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโรค

งดการอาบน้ำร้อน เพราะจะทำให้ผิวแห้งและระคายเคือง

งดการออกกำลังกายที่ทำให้เหงื่อออกมาก เพราะเหงื่ออาจระคายเคืองผิวที่เพิ่งได้รับการรักษา

งดการใช้เครื่องสำอางทุกชนิด เพื่อให้ผิวได้พักฟื้นอย่างเต็มที่

หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง และใช้หมวกหรือร่มเมื่อต้องออกนอกบ้าน

2. หลังทำทรีตเมนต์ 1-3 วัน

ทาครีมกันแดด SPF 50+ ทุก 2 ชั่วโมงหากต้องออกนอกบ้าน

ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซี ในช่วงเช้าเพื่อป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระ

ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินอี หรือ นิอาซินาไมด์ ในช่วงกลางคืนเพื่อฟื้นฟูผิว

งดการแต่งหน้าหนัก หากจำเป็นให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ไม่มีน้ำหอมและแอลกอฮอล์

ดื่มน้ำมากๆ อย่างน้อยวันละ 2-3 ลิตร เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้นจากภายใน

งดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด เช่น AHA, BHA, Salicylic Acid

ทาครีมหรือเซรั่มที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากว่านหางจระเข้ เพื่อลดการระคายเคือง

3. หลังทำทรีตเมนต์ 4-7 วัน

เริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดอ่อนๆ เช่น Mandelic Acid หรือ Lactic Acid เพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิว (สัปดาห์ที่ 2 เป็นต้นไป)

ทำมาส์กหน้าที่มีส่วนผสมของวิตามินซี สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง

หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีมลภาวะสูง หากจำเป็นให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติป้องกันมลภาวะ

กลับไปทำทรีตเมนต์ซ้ำ ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ (โดยทั่วไปแนะนำทุก 2-4 สัปดาห์ จำนวน 6-8 ครั้ง)

เพิ่มการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี, วิตามินอี, Coenzyme Q10

ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของนิอาซินาไมด์ เพื่อช่วยลดรอยดำและรอยแดงจากสิว

4. การดูแลระยะยาว

ทาครีมกันแดดทุกวัน แม้อยู่ในร่ม และทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมงหากอยู่กลางแจ้ง

ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซี เป็นประจำในตอนเช้า

ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอล 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ในตอนกลางคืน (หลังจากผ่านไป 1 เดือน)

ทำทรีตเมนต์บำรุงผิวเป็นประจำ เช่น มาส์กหน้า หรือนวดหน้า

ตรวจสอบผิวอย่างสม่ำเสมอ หากพบความผิดปกติให้ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง

รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว เช่น ปลา ผักผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ถั่ว และน้ำมันมะกอก

หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง เพราะอาจกระตุ้นการอักเสบของผิว

ผลลัพธ์ที่คาดหวังจากการทำ HYCOOX

ระยะสั้น (หลังทำ 1-3 ครั้ง)

สิวอักเสบลดลงอย่างชัดเจน 30-50%

รอยแดงดูจางลง 20-40%

ผิวดูกระจ่างใสขึ้น

รูขุมขนกระชับขึ้นเล็กน้อย

ความมันบนใบหน้าลดลง

ผิวนุ่มและชุ่มชื้นขึ้น

ระยะกลาง (หลังทำ 4-6 ครั้ง)

รอยดำจากสิวจางลง 50-70%

สิวใหม่ลดลง 60-80%

รูขุมขนกระชับและผิวเรียบเนียนขึ้น

ลดการอักเสบของผิวอย่างชัดเจน

สีผิวสม่ำเสมอขึ้น

ผิวมีความยืดหยุ่นและกระชับขึ้น

ระยะยาว (หลังทำครบคอร์ส 6-8 ครั้ง)

รอยดำจากสิวจางลง 70-90%

ลดการเกิดสิวใหม่ 80-95%

ผิวแข็งแรง มีภูมิต้านทานต่อมลภาวะและแสงแดดดีขึ้น

รูขุมขนกระชับอย่างชัดเจน

ผิวเรียบเนียน มีความชุ่มชื้นและกระจ่างใส

ลดริ้วรอยเล็กๆ น้อยๆ

ผิวมีออร่าและดูสุขภาพดี

ข้อควรระวังและข้อห้าม

ผู้ที่ไม่ควรใช้เครื่อง HYCOOX

ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

ผู้ที่มีโรคผิวหนังเรื้อรัง เช่น โรคสะเก็ดเงิน โรคผิวหนังอักเสบรุนแรง

ผู้ที่มีแผลเปิดหรือติดเชื้อบริเวณใบหน้า

ผู้ที่เพิ่งทำเลเซอร์หรือทรีตเมนต์รุนแรงมาไม่ถึง 2 สัปดาห์

ผู้ที่มีประวัติแพ้แสง (Photosensitivity)

ผู้ที่กำลังใช้ยาที่ทำให้ไวต่อแสง เช่น ยาปฏิชีวนะกลุ่ม Tetracycline

ผู้ที่มีประวัติเป็นโรคลมชัก หรือไวต่อแสงกระพริบ

ผู้ที่มีรอยสักบริเวณที่จะทำการรักษา

ผู้ที่มีประวัติเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง

อาการข้างเคียงที่อาจพบได้

ผิวแดงเล็กน้อย (หายภายใน 1-2 ชั่วโมง)

รู้สึกร้อนวูบวาบขณะทำทรีตเมนต์

ผิวแห้งตึงเล็กน้อย (1-2 วัน)

ผิวลอกเป็นขุย (พบได้น้อย)

ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น (ชั่วคราว)

อาจเกิดการระคายเคืองเล็กน้อยในผู้ที่มีผิวบอบบาง

อาจเกิดการแพ้ในผู้ที่มีประวัติแพ้ง่าย (พบได้น้อยมาก)

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

1. ต้องทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผล?

ส่วนใหญ่จะเริ่มเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก โดยเฉพาะในเรื่องของการลดการอักเสบและความมันบนใบหน้า แต่เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการลดรอยดำจากสิว แนะนำให้ทำอย่างน้อย 6-8 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 2-4 สัปดาห์

2. ทำแล้วเจ็บหรือไม่?

การทำ HYCOOX ไม่เจ็บ อาจรู้สึกอุ่นๆ หรือร้อนวูบวาบเล็กน้อยขณะทำทรีตเมนต์ แต่ไม่ถึงกับเจ็บปวด

3. มีดาวน์ไทม์หรือไม่?

HYCOOX เป็นทรีตเมนต์ที่ไม่มีดาวน์ไทม์ สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที แต่ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรงและการแต่งหน้าหนักในวันที่ทำทรีตเมนต์

4. เหมาะกับผิวประเภทใดบ้าง?

HYCOOX เหมาะกับทุกประเภทผิว ทั้งผิวมัน ผิวผสม ผิวแห้ง และผิวบอบบาง แต่ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนทำหากมีผิวที่บอบบางมากหรือมีโรคผิวหนัง

5. สามารถทำร่วมกับทรีตเมนต์อื่นได้หรือไม่?

สามารถทำร่วมกับทรีตเมนต์อื่นได้ แต่ควรเว้นระยะห่างที่เหมาะสม เช่น ควรเว้นห่างจากการทำเลเซอร์หรือปีลลิ่งอย่างน้อย 2 สัปดาห์ และควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม



 
 
 

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด
ไฮฟู Hifu ultramax 7D ลดเหนียงได้ไหม

HIFU Ultramax 7D: ทางออกสุดล้ำสำหรับปัญหาเหนียง 🌟 🔍 HIFU Ultramax 7D ลดเหนียงได้จริงหรือไม่? ตอบ: ได้อย่างมีประสิทธิภาพ! HIFU Ultramax...

 
 
 
HYCOOX ต้องทำบ่อยแค่ไหน

ความถี่ในการทำทรีทเมนต์ HYCOOX HYCOOX เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง (High-Intensity Focused Ultrasound - HIFU)...

 
 
 
HYCOOX เจ็บไหม

HYCOOX ทำแล้วเจ็บไหม? ระดับความเจ็บของการทำ HYCOOX HYCOOX เป็นเทคโนโลยี Microneedling ที่ใช้เข็มขนาดเล็กมากเจาะผิวเพื่อนำส่งสารบำรุงเข้าส...

 
 
 

Comments


ลิตเติ้ลวอล์คพัทยา 8/114 ต.หนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี 20150

 Good Doctor Medical clinic 8/114 ต.หนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี 20150

Tel: +6633002322

bottom of page