HYCOOX สามารถเลือกวิตามินได้ไหม
- วันวิสาข์ 2540
- 17 พ.ค.
- ยาว 2 นาที
จุดเด่นของเครื่อง HYCOOX
ไม่ต้องใช้เข็มหรือการบาดผิว จึงฟื้นตัวเร็วและมีผลข้างเคียงน้อย
สามารถนำส่งสารบำรุงเข้าสู่ชั้นผิวได้ลึกกว่าการทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวทั่วไป
ปรับแต่งการรักษาได้ตามความต้องการเฉพาะบุคคล
วิตามินและสารบำรุงที่สามารถเลือกใช้กับ HYCOOX
ใช่! เครื่อง HYCOOX สามารถเลือกวิตามินได้ โดยสามารถเลือกใช้วิตามินและสารบำรุงต่างๆ ตามปัญหาผิวที่ต้องการแก้ไข ดังนี้:
1. วิตามินซี (Vitamin C)
ประโยชน์: ลดจุดด่างดำ เพิ่มความกระจ่างใส กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ต้านอนุมูลอิสระ
เหมาะกับ: ผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ รอยแดงจากสิว ริ้วรอย ผิวเสื่อมสภาพจากแสงแดด
2. วิตามินบี 3 (Niacinamide)
ประโยชน์: ลดการอักเสบ ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดรูขุมขน ควบคุมความมัเหมาะกับ: สิว รูขุมขนกว้าง ผิวมัน ผิวไม่สม่ำเสมอ ผิวแพ้ง่าย
3. กรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid)
ประโยชน์: เพิ่มความชุ่มชื้น ลดริ้วรอย ทำให้ผิวอิ่มน้ำ เพิ่มความยืดหยุ่น
เหมาะกับ: ผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ ริ้วรอย ผิวบาง ผิวขาดความชุ่มชื้น
4. เปปไทด์ (Peptides)
ประโยชน์: กระตุ้นคอลลาเจน เพิ่มความยืดหยุ่น ลดริ้วรอย กระชับผิว
เหมาะกับ: ผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอยลึก ผิวขาดความกระชับ ผิวเสื่อมสภาพ
5. วิตามินอี (Vitamin E)
ประโยชน์: ต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบ ปกป้องผิว เพิ่มความชุ่มชื้น
เหมาะกับ: ผิวแห้ง ผิวระคายเคือง ผิวบอบบาง ผิวที่เสียหายจากแสงแดด
6. วิตามินเอ (Retinol)
ประโยชน์: ผลัดเซลล์ผิว ลดริ้วรอย ลดสิว ปรับสภาพผิว
เหมาะกับ: ริ้วรอย สิว ผิวไม่เรียบเนียน รอยดำ จุดด่างดำ
7. กรด AHA/BHA
ประโยชน์: ผลัดเซลล์ผิว ลดสิว ทำให้ผิวกระจ่างใส ลดความหมองคล้ำ
เหมาะกับ: สิว ผิวหมอง รูขุมขนอุดตัน ผิวหยาบกร้าน ผิวไม่เรียบเนียน
8. สารต้านอนุมูลอิสระ
ประโยชน์: ปกป้องผิวจากมลภาวะและแสงแดด ลดริ้วรอยก่อนวัย
เหมาะกับ: ผิวที่ต้องเผชิญมลภาวะ ผิวเสื่อมสภาพ ริ้วรอย ผิวหมองคล้ำ
การดูแลตัวเองก่อนทำ HYCOOX
2-3 สัปดาห์ก่อนทำ
งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์รุนแรง เช่น Retinoids, AHA/BHA, วิตามินซีเข้มข้น
ปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินสภาพผิวและความเหมาะสมในการทำ
แจ้งประวัติการแพ้และโรคประจำตัว ให้แพทย์ทราบ โดยเฉพาะโรคผิวหนัง
1 สัปดาห์ก่อนทำ
ใช้ครีมกันแดด SPF 50+ PA++++ ทุกวันและทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง
หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดด เป็นเวลานาน
งดการทำทรีตเมนต์ผิวอื่นๆ เช่น เลเซอร์ การขัดผิว การทำทรีตเมนต์ที่กระตุ้นผิว
ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอ่อนโยน ไม่มีส่วนผสมที่ระคายเคือง
48-72 ชั่วโมงก่อนทำ
ดื่มน้ำอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
งดดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ เพราะทำให้ผิวแห้งและเสื่อมสภาพ
นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารทอด และอาหารแปรรูป
วันที่ทำ HYCOOX
ล้างหน้าให้สะอาด ด้วยคลีนเซอร์อ่อนโยน
งดการแต่งหน้า และผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมเข้มข้น
แต่งกายสบายๆ เพื่อความสะดวกในการทำทรีตเมนต์
มาถึงก่อนเวลานัดหมาย เพื่อให้ผิวได้ปรับสภาพกับสภาพแวดล้อม
การดูแลตัวเองหลังทำ HYCOOX
24 ชั่วโมงแรก
ห้ามแตะต้องหรือขยี้ผิวหน้า เพื่อป้องกันการระคายเคือง
งดการแต่งหน้า เพื่อให้ผิวได้พักฟื้น
ประคบเย็น 10-15 นาที/ครั้ง หากมีอาการบวมแดง
นอนยกศีรษะสูง เพื่อลดอาการบวม
งดอาบน้ำร้อนหรืออบซาวน่า เพราะความร้อนจะทำให้ผิวระคายเคือง
2-7 วัน
ทำความสะอาดผิวด้วยคลีนเซอร์อ่อนโยน ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือน้ำหอม
ทามอยส์เจอไรเซอร์บ่อยๆ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
ใช้ครีมกันแดด SPF 50+ ทุก 2-3 ชั่วโมง แม้อยู่ในร่ม
ทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวตามที่แพทย์แนะนำ เพื่อเสริมประสิทธิภาพการรักษา
สังเกตอาการผิดปกติ เช่น ผิวแดงมาก คัน แสบร้อน หากมีอาการดังกล่าวให้ปรึกษาแพทย์ทันที
1-2 สัปดาห์
งดออกกำลังกายหนัก ที่ทำให้เหงื่อออกมาก
งดว่ายน้ำ อบซาวน่า จากุซซี่ เพราะคลอรีนและความร้อนอาจระคายเคืองผิว
งดกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก เพราะเหงื่อมีฤทธิ์เป็นกรดอาจระคายเคืองผิว
งดการขัดหรือสครับผิว เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคือง
ดูแลความสะอาดผิวอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรล้างหน้าบ่อยเกินไป
2-4 สัปดาห์
พบแพทย์ตามนัด เพื่อประเมินผลการรักษาและปรับแผนการดูแลผิว
เริ่มใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวปกติ (หลังได้รับคำแนะนำจากแพทย์)
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว เช่น ผักผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง อาหารที่มีโอเมก้า 3
ดื่มน้ำอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นจากภายใน
คำแนะนำเพิ่มเติม
การเลือกวิตามิน ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังหรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกวิตามินที่เหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาที่ต้องการแก้ไข
ความถี่ในการทำ โดยทั่วไปแนะนำให้ทำ 1-2 ครั้งต่อเดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและคำแนะนำของแพทย์
ผลลัพธ์ จะเห็นผลชัดเจนหลังทำ 3-6 ครั้ง แต่บางคนอาจเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก
ข้อควรระวัง ไม่แนะนำสำหรับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ มีแผลเปิดบริเวณใบหน้า มีการติดเชื้อที่ผิวหนัง หรือมีโรคผิวหนังกำเริบ
การดูแลต่อเนื่อง เพื่อรักษาผลลัพธ์ ควรดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสม และป้องกันผิวจากแสงแดด
Comments