ฉีดFillerแล้วบวมเกิดจากอะไร
- วันวิสาข์ 2540
- 7 วันที่ผ่านมา
- ยาว 1 นาที
การบวมหลังฉีดฟิลเลอร์สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ซึ่งแบ่งออกเป็นสาเหตุที่ปกติและสาเหตุที่ผิดปกติ ดังนี้:
**1. สาเหตุที่ปกติ**
1. **ปฏิกิริยาของร่างกายต่อเข็ม**
- การฉีดฟิลเลอร์ทำให้ผิวหนังเกิดการบาดเจ็บเล็กน้อยจากเข็มหรือทู่ (Cannula) ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ร่างกายจะตอบสนองด้วยการบวม
2. **การกักเก็บน้ำของฟิลเลอร์ (Hygroscopic Effect)**
- ฟิลเลอร์ชนิด Hyaluronic Acid (HA) มีคุณสมบัติในการดึงน้ำเข้าสู่ผิว ทำให้เกิดอาการบวมในช่วง 1-2 วันแรก
3. **การอักเสบเล็กน้อย**
- หลังฉีด ฟิลเลอร์อาจกระตุ้นการอักเสบในระดับที่ไม่รุนแรง ซึ่งเป็นกระบวนการฟื้นตัวตามธรรมชาติของร่างกาย
**2. สาเหตุที่ผิดปกติ**
2. **การติดเชื้อ**
- หากอุปกรณ์หรือกระบวนการฉีดไม่สะอาด อาจทำให้เกิดการติดเชื้อ ส่งผลให้มีอาการบวมแดงและเจ็บ
3. **การแพ้ฟิลเลอร์**
- แม้จะพบได้น้อย แต่บางคนอาจแพ้ส่วนประกอบในฟิลเลอร์ เช่น Hyaluronic Acid หรือสารกันเสียในฟิลเลอร์
4. **การอุดตันของหลอดเลือด**
- หากฟิลเลอร์ถูกฉีดเข้าไปในหลอดเลือด อาจทำให้เกิดการอุดตัน ส่งผลให้มีอาการบวมรุนแรงและผิวเปลี่ยนสี
5. **ปฏิกิริยาภูมิคุ้มกัน**
ร่างกายบางคนอาจตอบสนองต่อฟิลเลอร์ด้วยการสร้างพังผืดหรือการอักเสบเรื้อรัง
**ระยะเวลาการบวม**
- **บวมปกติ**: มักจะหายไปภายใน 2-3 วัน หรืออาจใช้เวลา 1 สัปดาห์ในบางกรณี
- **บวมผิดปกติ**: หากบวมเกิน 2 สัปดาห์ หรือมีอาการอื่นร่วม เช่น เจ็บมาก ผิวเปลี่ยนสี หรือมีไข้ ควรรีบพบแพทย์
**คำแนะนำก่อนฉีดฟิลเลอร์**
**1. การเตรียมตัว**
1. **งดยาและอาหารเสริมบางชนิด**
- งดยาแอสไพริน, ยา NSAIDs (ไอบูโพรเฟน), วิตามินอี และน้ำมันปลา อย่างน้อย 7 วันก่อนฉีด
2. **หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และบุหรี่**
- งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่อย่างน้อย 48 ชั่วโมงก่อนฉีด เพื่อลดความเสี่ยงของการอักเสบและการบวม
3. **พักผ่อนให้เพียงพอ**
- การนอนหลับที่เพียงพอช่วยให้ร่างกายพร้อมต่อการฟื้นตัว
4. **ปรึกษาแพทย์**
- แจ้งประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัว หรือการฉีดฟิลเลอร์ครั้งก่อน เพื่อให้แพทย์วางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม
**2. การเลือกสถานพยาบาล**
- เลือกคลินิกที่มีมาตรฐานและแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ
- ตรวจสอบฟิลเลอร์ที่ใช้ว่ามี อย. รับรองหรือไม่
**คำแนะนำหลังฉีดฟิลเลอร์**
**1. การดูแลทันทีหลังฉีด (24-48 ชั่วโมงแรก)**
1. **ประคบเย็น**
- ใช้ผ้าหรือถุงเจลเย็นประคบบริเวณที่ฉีด เพื่อลดอาการบวม
2. **หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีด**
- ห้ามนวดหรือกดแรงๆ บริเวณที่ฉีด
3. **หลีกเลี่ยงการนอนราบ**
- ควรนอนยกศีรษะสูง เพื่อลดการบวม
4. **งดแต่งหน้า**
- หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางในบริเวณที่ฉีด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
**2. การดูแลในช่วง 1 สัปดาห์แรก**
1. **หลีกเลี่ยงความร้อน**
- งดการอาบน้ำร้อน ซาวน่า หรือการออกกำลังกายหนัก
2. **ดื่มน้ำมากๆ**
- ช่วยให้ฟิลเลอร์ดูเป็นธรรมชาติและลดการบวม
3. **หลีกเลี่ยงแสงแดด**
- ป้องกันไม่ให้ผิวบริเวณที่ฉีดเกิดการระคายเคือง 4. **สังเกตอาการผิดปกติ**
- หากมีอาการบวมแดง เจ็บ หรือผิวเปลี่ยนสี ควรรีบพบแพทย์
**3. การดูแลระยะยาว**
- หลีกเลี่ยงการนวดหน้าแรงๆ หรือการทำทรีตเมนต์ที่ร้อน เช่น เลเซอร์
- ติดตามผลกับแพทย์ตามนัด เพื่อตรวจสอบสภาพฟิลเลอร
**4.อาการที่ควรพบแพทย์ทันที
- บวมแดงรุนแรง
- เจ็บปวดมากผิดปกติ
- ผิวบริเวณที่ฉีดเปลี่ยนเป็นสีม่วงหรือดำ
- มีไข้หรืออาการอักเสบที่ชัดเจน
**สรุป**
Comments