Filler ยี่ห้อไหนดี
- วันวิสาข์ 2540
- 24 มี.ค.
- ยาว 1 นาที
1. Restylane
Restylane เป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมและมีความปลอดภัยสูง ผลิตจาก Hyaluronic Acid (HA) ที่มีความบริสุทธิ์สูง
ข้อดี:
ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
ได้รับการรับรองจาก FDA
มีหลายสูตรให้เลือกตามความต้องการ
ข้อเสีย:
ราคาค่อนข้างสูง
อาจต้องฉีดซ้ำทุก 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับสูตร
Juvederm เป็นฟิลเลอร์ที่มีส่วนผสมของ Hyaluronic Acid ที่มีความเข้มข้นสูง ช่วยเติมเต็มและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว
ข้อดี:
ผลลัพธ์ยาวนานกว่า 12 เดือน
มีหลายสูตรให้เลือกตามบริเวณที่ต้องการฉีด
เนื้อเจลนุ่มและเกลี่ยง่าย
ข้อเสีย:
ราคาสูง
อาจเกิดอาการบวมหรือรอยช้ำชั่วคราว
Belotero เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อเจลละเอียด เหมาะสำหรับการแก้ไขริ้วรอยตื้นๆ และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
ข้อดี:
เนื้อเจลละเอียด ทำให้ผิวเรียบเนียน
เหมาะสำหรับริ้วรอยบริเวณรอบดวงตาและริมฝีปาก
มีความเสี่ยงต่ำในการเกิดก้อนหรือตุ่ม
ข้อเสีย:
อาจต้องฉีดซ้ำบ่อยกว่าฟิลเลอร์อื่นๆ
อาจไม่เหมาะสำหรับการเพิ่มปริมาตรมาก
Neuramis เป็นฟิลเลอร์ที่ผลิตจากเกาหลีใต้ มีความบริสุทธิ์สูงและให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
เปรียบเทียบฟิลเลอร์ยอดนิยมในประเทศไทย
1. Restylane
Restylane เป็นฟิลเลอร์ที่ผลิตจาก Hyaluronic Acid (HA) ที่ไม่ได้มาจากสัตว์ ได้รับการรับรองจาก FDA สหรัฐอเมริกา เหมาะสำหรับการเติมเต็มริ้วรอยและเพิ่มปริมาตรให้กับใบหน้า
ข้อดี:
ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
มีความปลอดภัยสูง
สามารถใช้ได้กับหลายบริเวณบนใบหน้า
มีหลายความเข้มข้นให้เลือกใช้
ข้อเสีย:
ราคาค่อนข้างสูง
ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด
อาจเกิดอาการบวมหรือรอยช้ำเล็กน้อยหลังการฉีด
Juvederm เป็นฟิลเลอร์ HA ที่มีเทคโนโลยี VYCROSS® ช่วยให้เนื้อเจลเชื่อมโยงกันได้ดี ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและอยู่ได้นานเปรียบเทียบฟิลเลอร์ยอดนิยมในประเทศไทย
1. Restylane
Restylane เป็นฟิลเลอร์ที่ผลิตจาก Hyaluronic Acid (HA) ที่ไม่ได้มาจากสัตว์ ได้รับการรับรองจาก FDA สหรัฐอเมริกา เหมาะสำหรับการเติมเต็มริ้วรอยและเพิ่มปริมาตรให้กับใบหน้า
ข้อดี:
ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
มีความปลอดภัยสูง
สามารถใช้ได้กับหลายบริเวณบนใบหน้า
มีหลายความเข้มข้นให้เลือกใช้
ข้อเสีย:
ราคาค่อนข้างสูง
ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด
อาจเกิดอาการบวมหรือรอยช้ำเล็กน้อยหลังการฉีด
2. Juvederm
Juvederm เป็นฟิลเลอร์ HA ที่มีเทคโนโลยี VYCROSS® ช่วยให้เนื้อเจลเชื่อมโยงกันได้ดี ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและอยู่ได้นาน
ข้อดี:
ผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 18-24 เดือน ขึ้นอยู่กับสูตร
มีหลายสูตรให้เลือกตามความต้องการ
เนื้อเจลนุ่ม ทำให้ดูเป็นธรรมชาติ
ลดการเกิดอาการบวมหลังฉีด
ข้อเสีย:
ราคาสูงกว่าฟิลเลอร์บางยี่ห้อ
อาจเกิดอาการแพ้ในผู้ที่แพ้ส่วนผสม
ต้องฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
3. Belotero
Belotero เป็นฟิลเลอร์ HA ที่มีเนื้อเจลละเอียด เหมาะสำหรับการแก้ไขริ้วรอยตื้นๆ และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติมาก
ข้อดี:
เนื้อเจลละเอียด ทำให้ผิวเรียบเนียนมาก
เหมาะสำหรับริ้วรอยตื้นๆ และบริเวณที่ต้องการความละเอียดสูง
มีโอกาสเกิดก้อนหรือตุ่มน้อยมาก
ผสมกลมกลืนกับเนื้อเยื่อได้ดี
ข้อเสีย:
อาจต้องฉีดซ้ำบ่อยกว่าฟิลเลอร์อื่นๆ เนื่องจากเนื้อเจลละเอียด
ไม่เหมาะสำหรับการเพิ่มปริมาตรมากๆ
ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน
Neuramis เป็นฟิลเลอร์ HA จากเกาหลีใต้ ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในประเทศไทย มีความปลอดภัยสูงและให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
ข้อดี:
ราคาย่อมเยากว่าฟิลเลอร์แบรนด์ยุโรปหรืออเมริกา
มีหลายสูตรให้เลือกตามความต้องการ
ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
มีความปลอดภัยสูง ผ่านการรับรองมาตรฐาน CE
ข้อเสีย:
อาจยังไม่เป็นที่รู้จักมากเท่าแบรนด์อื่นๆ
ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับสูตร
อาจหาใช้ได้ยากกว่าแบรนด์อื่นในบางคลินิก
ข้อเสีย:
อาจมีระยะเวลาการอยู่ตัวสั้นกว่าแบรนด์ชั้นนำอื่นๆ
ความบริสุทธิ์ของโมเลกุลอาจต่ำกว่า Juvederm, Restylane, และ Belotero
Comments