ร้อยไหม ก้างปลา(Cog Tread)
- วันวิสาข์ 2540
- 10 นาทีที่ผ่านมา
- ยาว 2 นาที
ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับร้อยไหมก้างปลา
ร้อยไหมก้างปลา หรือ Cog Thread Lift คือวิธีการยกกระชับผิวหน้าและลำคอแบบไม่ต้องผ่าตัด โดยใช้เส้นไหมพิเศษที่มีลักษณะคล้ายก้างปลาหรือเงี่ยงเล็กๆ บนตัวไหม ซึ่งจะทำหน้าที่ยึดเกาะเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังและดึงให้ผิวยกกระชับขึ้น
ประเภทของไหมก้างปลา
PDO (Polydioxanone) - ละลายได้ภายใน 6-8 เดือน ให้ผลลัพธ์ประมาณ 1-1.5 ปี
PLLA (Poly-L-Lactic Acid) - ละลายช้ากว่า ให้ผลลัพธ์นานถึง 2 ปี
PCL (Polycaprolactone) - ละลายช้าที่สุด ให้ผลลัพธ์นานถึง 2-3 ปี
กลไกการทำงาน
การยกกระชับทันที - เงี่ยงบนไหมจะยึดเกาะเนื้อเยื่อและดึงให้ผิวตึงขึ้นทันที
การกระตุ้นคอลลาเจน - ไหมจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินรอบๆ บริเวณที่ร้อยไหม
การสร้างเนื้อเยื่อใหม่ - เมื่อไหมค่อยๆ ละลาย จะเกิดเนื้อเยื่อใหม่ที่แข็งแรงขึ้นมาแทนที่
ประโยชน์ของการร้อยไหมก้างปลา
ยกกระชับผิวหน้าและลำคอ - แก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อย ร่องแก้มลึก และเส้นกรามไม่ชัดเจน
ปรับรูปหน้า - ช่วยให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น กรอบหน้าชัดเจน และมีมิติมากขึ้น
ลดเลือนริ้วรอย - ช่วยลดริ้วรอยบริเวณร่องแก้ม รอบปาก และคอ
ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ - ไม่ทำให้ใบหน้าดูผิดธรรมชาติเหมือนการผ่าตัดดึงหน้า
การฟื้นตัวรวดเร็ว - ใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่าการผ่าตัดดึงหน้าแบบดั้งเดิม
ไม่มีแผลเป็นที่มองเห็นได้ - เนื่องจากใช้เข็มขนาดเล็กในการสอดไหม
ตำแหน่งที่นิยมร้อยไหมก้างปลา
แก้ม - ช่วยยกกระชับแก้มที่หย่อนคล้อย
กรอบหน้า - ช่วยให้กรอบหน้าชัดเจนและเรียวขึ้น
คาง - ช่วยกระชับผิวบริเวณใต้คางและขากรรไกรคอ - แก้ไขปัญหาผิวคอหย่อนคล้อย
หน้าผาก - ช่วยยกคิ้วและลดริ้วรอยบนหน้าผากตา - ช่วยยกหางตาและแก้ไขปัญหาหนังตาตกขั้นตอนการร้อยไหมก้างปลาโดยละเอียด
1. การปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
การวิเคราะห์สภาพผิว - แพทย์จะประเมินความหย่อนคล้อยของผิวและโครงสร้างใบหน้า
การวางแผนตำแหน่งร้อยไหม - กำหนดจุดสอดไหมและทิศทางการดึง
การเลือกชนิดและจำนวนไหม - ขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาพผิว
การถ่ายภาพก่อนทำ - เพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์หลังทำ
2. ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนทำ
การทำความสะอาดผิว - ล้างหน้าให้สะอาดและใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ
การทายาชา - ทายาชาเฉพาะที่หรือฉีดยาชาเพื่อลดความเจ็บปวด
การวาดตำแหน่ง - แพทย์จะทำเครื่องหมายบนผิวเพื่อกำหนดจุดสอดไหม
3. ขั้นตอนการร้อยไหม
การสอดเข็มนำ - แพทย์จะใช้เข็มพิเศษเจาะเข้าไปใต้ผิวหนัง
การสอดไหม - สอดเส้นไหมผ่านเข็มนำเข้าไปใต้ผิวหนัง
การจัดตำแหน่งไหม - ปรับตำแหน่งไหมให้เหมาะสม
การดึงและยึดไหม - ดึงไหมเพื่อยกกระชับผิวและตัดปลายไหมส่วนเกิน
การปิดแผล - ใช้พลาสเตอร์ขนาดเล็กปิดจุดที่สอดไหม
4. ระยะเวลาในการทำ
โดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที ขึ้นอยู่กับจำนวนไหมและตำแหน่งที่ร้อยการเตรียมตัวก่อนร้อยไหมก้างปลา (ละเอียด)
2 สัปดาห์ก่อนทำ
งดยาต้านการแข็งตัวของเลือดแอสไพริน วาร์ฟาริน ไอบูโพรเฟน นาโพรเซน
งดอาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด วิตามินอี น้ำมันปลา
สาหร่ายสไปรูลิน่า โสม กิงโกะ บิโลบา งดการดื่มแอลกอฮอล์
เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำและการอักเสบ
1 สัปดาห์ก่อนทำ งดการสูบบุหรี่
เพื่อให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้นและช่วยในการฟื้นตัวงดผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Retinol หรือ AHAsเพื่อลดความไวของผิวและการระคายเคือง
ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น 3 วันก่อนทำ
งดการทำทรีทเมนต์ผิวหน้าอื่นๆ เลเซอร์ ปีลลิ่ง ไมโครเดิร์มาเบรชั่น
หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดนานๆ เพื่อป้องกันการระคายเคืองผิว
1 วันก่อนทำ ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์อ่อนโยน
ไม่ควรใช้สครับหรือผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์ระคายเคือง งดการแต่งหน้า
เพื่อให้ผิวสะอาดที่สุดในวันทำหัตถการนอนหลับให้เพียงพอ อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายพร้อมสำหรับการฟื้นตัววันทำหัตถการ มาถึงคลินิกก่อนเวลานัด
เพื่อมีเวลาเตรียมตัวและลดความเครียด สวมเสื้อผ้าที่สบาย
ควรเป็นเสื้อที่มีกระดุมหรือซิปด้านหน้า ไม่ต้องดึงผ่านศีรษะ
ไม่สวมเครื่องประดับบริเวณใบหน้าและคอ
เช่น ต่างหู สร้อยคอ แจ้งแพทย์หากมีความกังวล
เพื่อให้แพทย์ช่วยคลายความกังวลและอธิบายขั้นตอนเพิ่มเติม
การดูแลตัวเองหลังร้อยไหมก้างปลา (ละเอียด)
24 ชั่วโมงแรก ประคบเย็น
ใช้น้ำแข็งห่อผ้าสะอาดประคบบริเวณที่มีอาการบวมหรือช้ำ
ประคบครั้งละ 15-20 นาที ทุก 1-2 ชั่วโมง
นอนศีรษะสูง
ใช้หมอน 2-3 ใบรองศีรษะให้สูงกว่าลำตัว
ช่วยลดอาการบวมและป้องกันการเคลื่อนที่ของไหมงดการสัมผัสบริเวณที่ร้อยไหม
ห้ามกด นวด หรือบีบบริเวณที่ร้อยไหมโดยเด็ดขาด งดการแต่งหน้า
เพื่อป้องกันการติดเชื้อและการระคายเคือง รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง
ยาแก้ปวด ยาปฏิชีวนะ ถ้ามี ยาลดการอักเสบ
2-7 วันหลังทำ
หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวใบหน้ามากเกินไป ลดการพูดมากๆ
หลีกเลี่ยงการหัวเราะหรือยิ้มกว้างเกินไป งดการเคี้ยวอาหารแข็งหรือเหนียว
ทำความสะอาดใบหน้าอย่างนุ่มนวลใช้คลีนเซอร์อ่อนโยน เช็ดหน้าเบาๆ ไม่ถูแรงๆ
หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก งดการวิ่ง
งดการยกน้ำหนัก งดกิจกรรมที่ต้องก้มหัว เช่น โยคะบางท่า
หลีกเลี่ยงความร้อน งดการอบซาวน่า งดการแช่น้ำร้อน
งดการอาบน้ำร้อนจัดทาครีมกันแดด SPF 50+
ทุกครั้งที่ออกจากบ้าน แม้ในวันที่มีเมฆมาก
ทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง 1-2 สัปดาห์หลังทำ
หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหรือตะแคงหน้านอนหงายเพื่อลดแรงกดทับบนใบหน้า
ใช้หมอนพิเศษสำหรับการนอนหงาย (ถ้ามี)งดการนวดหน้า
รวมถึงการใช้เครื่องนวดหน้าหรืออุปกรณ์กระชับผิวต่างๆ
งดการฉีดโบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์
อย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังร้อยไหม เริ่มใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวได้
ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ:
Hyaluronic Acid Peptides Vitamin C (ในปริมาณน้อย)
Ceramidesรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อการฟื้นตัวของผิว
อาหารที่มีโปรตีนสูง ผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง
อาหารที่มีโอเมก้า 3 สูงน้ำสะอาดอย่างน้อย 2 ลิตรต่อวัน
3-4 สัปดาห์หลังทำเริ่มกลับมาออกกำลังกายเบาๆ ได้
เดินเร็ว ว่ายน้ำแบบไม่หักโหม โยคะเบาๆ
สามารถเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี Retinol ได้
เริ่มจากความเข้มข้นต่ำและค่อยๆ เพิ่ม เริ่มทำทรีทเมนต์ผิวเบาๆ ได้
เช่น มาส์กหน้า การนวดหน้าเบาๆ สังเกตผลลัพธ์
ผลลัพธ์จะชัดเจนขึ้นหลังจาก 1 เดือนอาการบวมจะลดลงอย่างมาก
1-3 เดือนหลังทำ
พบแพทย์ตามนัด
เพื่อติดตามผลลัพธ์และแก้ไขปัญหา (ถ้ามี)
สามารถทำทรีทเมนต์ผิวอื่นๆ ได้ เลเซอร์ ปีลลิ่ง ไมโครเดิร์มาเบรชั่น
ดูแลผิวอย่างต่อเนื่องใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของคอลลาเจน
ทาครีมกันแดดทุกวันใช้ผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอย
อาการผิดปกติที่ควรปรึกษาแพทย์ทันที
อาการบวมที่รุนแรงหรือเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะหลังจาก 3-5 วันแรกอาการเจ็บปวดรุนแรง
ที่ไม่บรรเทาด้วยยาแก้ปวดทั่วไป มีไข้
อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ
รอยแดงที่ลามออกไปบริเวณรอบๆ จุดที่ร้อยไหม
มีหนองหรือสารคัดหลั่งออกจากจุดที่สอดไหมความไม่สมมาตรที่ชัดเจน
ใบหน้าด้านหนึ่งยกสูงกว่าอีกด้านมาก
รู้สึกว่าไหมทะลุผิวหนังมองเห็นหรือรู้สึกได้ว่ามีไหมโผล่ออกมา
ข้อควรระวังและข้อห้าม
ผู้ที่ไม่ควรร้อยไหมก้างปลาผู้ที่มีโรคภูมิแพ้รุนแรง
อาจเกิดปฏิกิริยาแพ้ต่อวัสดุของไหม
ผู้ที่มีโรคเลือดออกง่ายหรือใช้ยาละลายลิ่มเลือดที่ไม่สามารถหยุดได้
ผู้ที่มีการติดเชื้อบริเวณใบหน้าสิว อักเสบ หรือเริม
ผู้ที่มีโรคผิวหนังบางชนิด
เช่น โรคภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis) ที่กำเริบ
ผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยมากเกินไปอาจต้องพิจารณาการผ่าตัดดึงหน้าแทน
หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรควรรอให้พ้นช่วงนี้ก่อน
ข้อควรระวังเพิ่มเติม
ผู้ที่มีแผลเป็นนูนหรือคีลอยด์
มีความเสี่ยงที่จะเกิดแผลเป็นบริเวณที่สอดไหม
ผู้ที่เพิ่งทำเลเซอร์หรือปีลลิ่งควรรออย่างน้อย 2-4 สัปดาห์
ผู้ที่มีความคาดหวังสูงเกินไปควรเข้าใจข้อจำกัดของการร้อยไหม
ผู้ที่มีโรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้อาจมีปัญหาในการหายของแผล
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
1. การร้อยไหมก้างปลาเจ็บมากหรือไม่?
ความเจ็บปวดอยู่ในระดับปานกลาง แพทย์จะใช้ยาชาเฉพาะที่เพื่อลดความเจ็บปวด ผู้ป่วยส่วนใหญ่รู้สึกเพียงแรงกดหรือแรงดึงระหว่างทำหัตถการ
2. ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานแค่ไหน?
ขึ้นอยู่กับชนิดของไหม อายุ สภาพผิว และการดูแลหลังทำ โดยทั่วไปผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 1-3 ปี
3. จะเห็นผลลัพธ์เมื่อไหร่?
เห็นผลทันทีหลังทำ แต่อาจมีอาการบวมบ้าง ผลลัพธ์ที่แท้จริงจะเห็นชัดเจนหลังจาก 2-4 สัปดาห์ เมื่ออาการบวมลดลงและคอลลาเจนเริ่มสร้างตัว
4. สามารถทำร่วมกับการฉีดโบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์ได้หรือไม่?
ได้ แต่ควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 สัปดาห์ โดยทั่วไปแนะนำให้ทำร้อยไหมก่อน แล้วค่อยฉีดโบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์
5. มีความเสี่ยงที่ไหมจะเคลื่อนที่หรือหลุดหรือไม่?
มีความเสี่ยงเล็กน้อย โดยเฉพาะในช่วงแรก การปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลหลังทำอย่างเคร่งครัดจะช่วยลดความเสี่ยงนี้
6. จะกลับไปทำงานได้เมื่อไหร่?
ส่วนใหญ่สามารถกลับไปทำงานได้ภายใน 1-3 วัน ขึ้นอยู่กับอาการบวมและรอยช้ำ
7. จำเป็นต้องทำซ้ำหรือไม่?
เมื่อผลลัพธ์เริ่มจางลง (ประมาณ 1-3 ปี) สามารถทำซ้ำได้ บางคนอาจทำเพิ่มเติมเพื่อรักษาผลลัพธ์ทุก 1-2 ปี
8. มีทางเลือกอื่นนอกจากการร้อยไหมก้างปลาหรือไม่?
มีทางเลือกอื่น เช่น การฉีดฟิลเลอร์ การทำ HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) หรือการผ่าตัดดึงหน้า ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหาและความต้องการ
Comments