ร้อยไหมแก้ม โหนกแก้ม
- วันวิสาข์ 2540
- 2 วันที่ผ่านมา
- ยาว 2 นาที
การร้อยไหมแก้มและโหนกแก้มเป็นหัตถการทางความงามที่ช่วยยกกระชับผิวบริเวณใบหน้าที่หย่อนคล้อย โดยไม่ต้องผ่าตัด เทคนิคนี้ช่วยฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้า ปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น และลดเลือนริ้วรอยได้อย่างเป็นธรรมชาติ
1. หลักการของการร้อยไหมแก้มและโหนกแก้ม
การร้อยไหมแก้มใช้หลักการสอดเส้นไหมพิเศษเข้าไปในชั้นใต้ผิวหนัง เพื่อสร้างโครงสร้างรองรับและยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย โดยเส้นไหมจะทำหน้าที่:
สร้างโครงค้ำยันชั่วคราวให้กับผิวหนังยกกระชับผิวหนังที่หย่อนคล้อย
เพิ่มความแน่นกระชับให้กับผิวในระยะยาว
ปรับรูปหน้าให้เรียวและมีมิติมากขึ้น
2. ประเภทของไหมที่ใช้ในการร้อยไหมแก้มและโหนกแก้ม
2.1 PDO (Polydioxanone)
ระยะเวลาละลาย: 4-6 เดือน
ผลลัพธ์อยู่ได้: 8-12 เดือน
คุณสมบัติ: กระตุ้นคอลลาเจนได้ดี ปลอดภัยสูง
เหมาะกับ: ผิวหย่อนคล้อยระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง
ราคาโดยประมาณ: 15,000-30,000 บาท
2.2 PLLA (Poly-L-Lactic Acid)
ระยะเวลาละลาย: 12-18 เดือน
ผลลัพธ์อยู่ได้: 18-24 เดือน
คุณสมบัติ: กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว
เหมาะกับ: ผิวหย่อนคล้อยปานกลาง
ราคาโดยประมาณ: 30,000-50,000 บาท
2.3 PCL (Polycaprolactone)
ระยะเวลาละลาย: 18-24 เดือน
ผลลัพธ์อยู่ได้: 2-3 ปี
คุณสมบัติ: ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานที่สุด
เหมาะกับ: ผิวหย่อนคล้อยระดับมาก
ราคาโดยประมาณ: 50,000-80,000 บาท
2.4 รูปแบบของไหม
Mono Threads: เส้นไหมเรียบ ใช้สำหรับกระตุ้นคอลลาเจน
Cog Threads: มีขอเล็กๆ ช่วยยกกระชับผิวได้ดี
Screw/Tornado Threads: เส้นไหมแบบเกลียว เพิ่มพื้นที่ผิวในการกระตุ้นคอลลาเจน
V-Lift Threads: ไหมรูปตัว V ให้ผลยกกระชับสูง เหมาะกับบริเวณแก้มและโหนกแก้ม
3. การประเมินก่อนการร้อยไหมแก้มและโหนกแก้ม
3.1 การประเมินความเหมาะสม
ระดับความหย่อนคล้อย: แบ่งเป็น 3 ระดับ
ระดับ 1: หย่อนคล้อยเล็กน้อยระดับ 2: หย่อนคล้อยปานกลาง
ระดับ 3: หย่อนคล้อยมาก คุณภาพของผิว: ความยืดหยุ่น ความหนาของผิว
โครงสร้างใบหน้า: รูปหน้า กระดูกโหนกแก้ม
3.2 ข้อบ่งชี้
ผิวแก้มหย่อนคล้อย
โหนกแก้มแบนหรือขาดมิติ
ร่องแก้มลึก
ริ้วรอยบริเวณแก้ม
3.3 ข้อห้าม
ข้อห้ามเด็ดขาด:
ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
มีการติดเชื้อบริเวณที่จะทำ
โรคภูมิแพ้ตัวเอง
โรคเลือดออกง่าย
ข้อห้ามสัมพัทธ์:
เบาหวานที่ควบคุมไม่ได้
โรคผิวหนังเรื้อรัง
ประวัติแพ้ไหมละลาย
4. การเตรียมตัวก่อนการร้อยไหมแก้มและโหนกแก้ม
4.1 การเตรียมตัว 2 สัปดาห์ก่อนทำ
งดยาและอาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด:
แอสไพริน
ไอบูโพรเฟน
วิตามิน E
น้ำมันปลา
โสม
กิงโก ไบโลบา
งดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์
เริ่มบำรุงผิวให้แข็งแรง:
ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของวิตามิน C
ทาครีมกันแดดทุกวัน
4.2 การเตรียมตัว 1 สัปดาห์ก่อนทำ
เพิ่มการดื่มน้ำ: 8-10 แก้วต่อวัน
งดการขัดผิวหรือทำทรีตเมนต์บริเวณใบหน้า
งดการนวดหน้า
แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาที่รับประทานประจำ
4.3 การเตรียมตัววันทำหัตถการ
สวมเสื้อผ้าที่หลวมสบาย: เสื้อผ้าที่ไม่ต้องดึงผ่านศีรษะ
งดอาหารและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน 4-6 ชั่วโมงก่อนทำ
มาถึงคลินิกก่อนเวลานัดอย่างน้อย 30 นาที5. ขั้นตอนการร้อยไหมแก้มและโหนกแก้ม
5.1 การเตรียมพื้นที่
ทำความสะอาดผิวด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
ถ่ายภาพก่อนทำเพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์
ทายาชาเฉพาะที่หรือฉีดยาชา
วาดแนวการร้อยไหมบนผิวหนัง
5.2 การสอดใส่เส้นไหม
ใช้เข็มพิเศษหรือแคนนูล่าสอดเข้าไปในชั้นใต้ผิวหนัง
จุดสอดเข็มมักอยู่บริเวณ:
ขมับ
หน้าหู
ใต้โหนกแก้ม
สอดเส้นไหมตามแนวที่กำหนดไว้
จัดวางเส้นไหมในรูปแบบต่างๆ:
แบบรัศมี (Radial Pattern)
แบบตาข่าย (Mesh Pattern)
แบบ V-shape เพื่อยกโหนกแก้ม
5.3 การปิดแผล
ตัดปลายเส้นไหมส่วนเกิน
ปิดรอยแผลด้วยพลาสเตอร์เล็กๆ
ทายาปฏิชีวนะเฉพาะที่
ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม
5.4 ระยะเวลาในการทำ
ใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที ขึ้นอยู่กับจำนวนเส้นไหม
6. การดูแลหลังการร้อยไหมแก้มและโหนกแก้ม6.1 การดูแล 24-48 ชั่วโมงแรก
ประคบเย็น: 15-20 นาที ทุก 2-3 ชั่วโมง เพื่อลดอาการบวม
นอนหงาย: หลีกเลี่ยงการนอนตะแคงหรือคว่ำ
หลีกเลี่ยงการแสดงสีหน้าที่เกินจำเป็น: เช่น หัวเราะ ยิ้มกว้าง
งดการอาบน้ำร้อน: ใช้น้ำอุ่นเช็ดหน้าแทน
รับประทานยาตามแพทย์สั่ง: ยาแก้ปวด ยาปฏิชีวนะ
งดการสัมผัสหรือกดบริเวณที่ทำ
6.2 การดูแล 3-7 วันแรก
ทำความสะอาดใบหน้าเบาๆ: ด้วยน้ำเกลือหรือคลีนเซอร์อ่อนโยน
ทายาตามแพทย์สั่ง
หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าหนัก: ใช้เครื่องสำอางเบาๆ
หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก
หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารที่แข็งหรือเหนียว
นอนหนุนหมอนสูงเล็กน้อย: เพื่อลดอาการบวม
6.3 การดูแล 1-2 สัปดาห์
ทาครีมกันแดด SPF 50+: ทุกครั้งที่ออกแดด
หลีกเลี่ยงการนวดหน้า
เริ่มออกกำลังกายเบาๆได้: เช่น การเดิน
หลีกเลี่ยงการแช่น้ำร้อน ซาวน่า หรือจากุซซี่
หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
6.4 การดูแล 2-4 สัปดาห์
เริ่มออกกำลังกายได้มากขึ้น: แต่หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกสูง
สามารถเริ่มนวดหน้าเบาๆได้: หากแพทย์อนุญาต
ดูแลผิวให้ชุ่มชื้น: ทาครีมบำรุงผิว
สังเกตการเปลี่ยนแปลงของผิว
6.5 การดูแลระยะยาว
รักษาน้ำหนักให้คงที่: หลีกเลี่ยงการเพิ่มหรือลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
ดื่มน้ำให้เพียงพอ: 8-10 แก้วต่อวัน
ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว: ที่มีส่วนผสมของวิตามิน C, เรตินอล, เปปไทด์
ทาครีมกันแดดทุกวัน
พบแพทย์ตามนัด: เพื่อติดตามผลการรักษา7. ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
7.1 ผลข้างเคียงทั่วไป (พบบ่อย)
อาการบวม: มักเกิดใน 24-48 ชั่วโมงแรก
รอยช้ำ: หายได้ภายใน 1-2 สัปดาห์อาการเจ็บหรือไม่สบาย: บรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวด
อาการคัน: เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการหายของแผล
รอยแดง: บริเวณจุดสอดเข็ม
ความรู้สึกไม่เป็นธรรมชาติ: รู้สึกตึงหรือแน่นบริเวณแก้ม
7.2 ผลข้างเคียงที่ควรพบแพทย์
การติดเชื้อ:
มีไข้สูง >38°C
บริเวณที่ทำบวมแดงมาก ร้อน และเจ็บ
มีหนองหรือสารคัดหลั่งผิดปกติ
ไหมทะลุผิวหนัง:
เห็นเส้นไหมโผล่ออกมาจากผิวหนัง
อาการแพ้:
ผื่นแดง คัน บวมมากผิดปกติ
หายใจลำบาก
อาการชา: ต่อเนื่องนานเกิน 1 สัปดาห์
ความไม่สมมาตร: ใบหน้าไม่สมมาตรอย่างชัดเจน
การเคลื่อนที่ของไหม: รู้สึกว่าไหมเคลื่อนที่หรือหลุด
8. ผลลัพธ์ที่คาดหวัง
8.1 ผลลัพธ์ระยะสั้น (1-4 สัปดาห์)
แก้มและโหนกแก้มยกกระชับขึ้นทันที
อาจมีรอยบวมหรือรอยช้ำในช่วงแรก
เห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนหลังอาการบวมลดลง
ใบหน้าเริ่มดูเรียวขึ้น
8.2 ผลลัพธ์ระยะกลาง (1-3 เดือน)
ผิวกระชับมากขึ้นเรื่อยๆ
เริ่มเห็นการลดลงของริ้วรอย
โหนกแก้มมีมิติชัดเจนขึ้น
รูปหน้าเรียวและมีโครงสร้างชัดเจน8.3 ผลลัพธ์ระยะยาว (3-24 เดือน)
ผลลัพธ์ดีที่สุดหลัง 3-6 เดือน
ผิวกระชับและเรียบเนียน
โหนกแก้มมีมิติสวยงาม
ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-3 ปี ขึ้นอยู่กับประเภทไหม
อาจต้องทำซ้ำเมื่อผลลัพธ์เริ่มลดลง
9. คำถามที่พบบ่อย
9.1 การร้อยไหมแก้มและโหนกแก้มเจ็บหรือไม่?
มีการใช้ยาชาเฉพาะที่ จึงรู้สึกเพียงแรงกดเล็กน้อย
หลังยาชาหมดฤทธิ์ อาจมีอาการเจ็บเล็กน้อยถึงปานกลาง 1-2 วัน
9.2 หลังร้อยไหมต้องพักฟื้นนานแค่ไหน?
สามารถกลับไปทำงานได้ทันทีหรือภายใน 1-2 วัน
ควรงดการออกกำลังกายหนัก 1-2 สัปดาห์
อาการบวมส่วนใหญ่หายภายใน 3-7 วัน
รอยช้ำอาจใช้เวลา 1-2 สัปดาห์จึงหายสมบูรณ์
9.3 การร้อยไหมแก้มและโหนกแก้มต่างจากการฉีดฟิลเลอร์อย่างไร?
การร้อยไหมเน้นการยกกระชับ ส่วนฟิลเลอร์เน้นการเติมเต็ม
ไหมให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่าฟิลเลอร์
สามารถทำร่วมกันได้เพื่อผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
9.4 ควรทำการร้อยไหมแก้มและโหนกแก้มในช่วงอายุเท่าไร?
เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 30-60 ปี
ผู้ที่มีอายุน้อยกว่าอาจไม่จำเป็นต้องทำ
ผู้ที่มีอายุมากกว่าอาจต้องพิจารณาการผ่าตัดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่า
9.5 ทำร่วมกับหัตถการอื่นได้หรือไม่?
สามารถทำร่วมกับการฉีดโบท็อกซ์
สามารถทำร่วมกับการฉีดฟิลเลอร์ (แต่ควรเว้นระยะ 2-4 สัปดาห์)
สามารถทำร่วมกับการรักษาด้วยเลเซอร์ (แต่ควรเว้นระยะ 2-4 สัปดาห์)
10. ข้อควรพิจารณาในการเลือกแพทย์และสถานพยาบาล
10.1 คุณสมบัติของแพทย์
มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการร้อยไหมมีใบรับรองการฝึกอบรมเฉพาะทาง
มีผลงานก่อน-หลังให้ดูมีความเข้าใจในเรื่องสัดส่วนใบหน้าที่สวยงาม
10.2 สถานพยาบาล
ได้รับการรับรองมาตรฐาน
มีอุปกรณ์ฉุกเฉินพร้อมใช้งาน
มีความสะอาดและปลอดภัย
ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน10.3 ค่าใช้จ่าย
ราคาโดยประมาณ 15,000 - 80,000 บาท ขึ้นอยู่กับ:
ประเภทและจำนวนเส้นไหม
ความเชี่ยวชาญของแพทย์
ที่ตั้งของสถานพยาบาล
Comments