ร้อยไหมแตกต่างจากฟิลเลอร์อย่างไร
- วันวิสาข์ 2540
- 4 วันที่ผ่านมา
- ยาว 2 นาที
นิยาม: การร้อยไหมเป็นหัตถการที่ใช้เส้นไหมพิเศษสอดใต้ผิวหนังเพื่อยกกระชับผิวหน้าและปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด
ประเภทของไหมที่ใช้ในการร้อยไหม
ไหมละลาย (Absorbable Threads)
PDO (Polydioxanone) - ละลายภายใน 6-8 เดือน
PLLA (Poly-L-Lactic Acid) - ละลายภายใน 12-18 เดือน
PCL (Polycaprolactone) - ละลายภายใน 12-24 เดือน
ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า แต่มีความเสี่ยงสูงกว่ากลไกการทำงานของร้อยไหม
การยกกระชับทันที (Immediate Lifting) - เส้นไหมจะมีหนามหรือขอเกี่ยวเนื้อเยื่อและดึงผิวให้ตึงขึ้นทันที
การกระตุ้นคอลลาเจน (Collagen Stimulation) - เส้นไหมกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนรอบๆ บริเวณที่ร้อย
การสร้างโครงสร้างรองรับ (Scaffolding) - เส้นไหมสร้างโครงสร้างรองรับใต้ผิวหนัง
ข้อบ่งชี้ในการร้อยไหม
ผิวหย่อนคล้อยระดับเล็กถึงปานกลาง
ต้องการยกกระชับบริเวณแก้ม คิ้ว คาง หรือลำคอ
ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น (V-shape face)
ต้องการแก้ไขปัญหาคางสองชั้น
อายุประมาณ 35-60 ปีข้อดีของการร้อยไหม
หัตถการไม่ซับซ้อน ใช้เวลาน้อย (30-60 นาที)
ไม่ต้องดมยาสลบ ใช้เพียงยาชาเฉพาะที่
ฟื้นตัวเร็ว สามารถกลับไปทำงานได้ภายใน 1-2 วัน
ไม่มีแผลผ่าตัดหรือรอยแผลเป็น
สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการเฉพาะบุคคล
กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาวข้อเสียของการร้อยไหม
ผลลัพธ์ไม่ถาวร (6 เดือน - 2 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของไหม)
ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยมาก
อาจเกิดการติดเชื้อหรือเกิดปฏิกิริยาต่อต้านวัสดุแปลกปลอม
อาจเกิดอาการเจ็บปวด บวม ช้ำ หลังทำหัตถการ
ไหมอาจเคลื่อนหรือทะลุผิวหนังได้
ไม่สามารถแก้ไขปัญหาริ้วรอยลึกหรือร่องแก้มลึกได้
ฟิลเลอร์ (Dermal Fillers)
นิยาม: ฟิลเลอร์คือสารเติมเต็มที่ฉีดเข้าสู่ผิวหนังเพื่อเพิ่มปริมาตร ลดเลือนริ้วรอย หรือปรับรูปทรงใบหน้า
ประเภทของฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ชนิดละลายได้ (Temporary Fillers)
Hyaluronic Acid (HA) - เช่น Juvederm, Restylane, Belotero
อยู่ได้ 6-18 เดือน
สามารถสลายด้วยเอนไซม์ hyaluronidase ได้
Calcium Hydroxylapatite (CaHA) - เช่น Radiesse
อยู่ได้ 12-18 เดือน
กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดี
Poly-L-Lactic Acid (PLLA) - เช่น Sculptra
อยู่ได้ 2 ปีขึ้นไป
กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว
ฟิลเลอร์ชนิดถาวร (Permanent Fillers)
Polymethylmethacrylate (PMMA) - เช่น Bellafill
Silicone
Polyacrylamide
มีความเสี่ยงสูงกว่าและไม่ค่อยนิยมใช้ในปัจจุบันกลไกการทำงานของฟิลเลอร์
การเติมเต็มทันที (Immediate Volume) - เพิ่มปริมาตรในบริเวณที่ฉีดทันที
การดึงน้ำ (Hydrophilic Effect) - โดยเฉพาะ HA ที่ดูดซับน้ำได้มาก
การกระตุ้นคอลลาเจน (Collagen Stimulation) - บางชนิด เช่น CaHA และ PLLA
ข้อบ่งชี้ในการฉีดฟิลเลอร์
ร่องลึกบนใบหน้า เช่น ร่องแก้ม ร่องเหนือริมฝีปาก
ริมฝีปากบาง ต้องการเพิ่มปริมาตร
ต้องการเพิ่มปริมาตรแก้มปรับรูปจมูก คาง โหนกแก้ม
แก้ไขรอยหลุมสิว
ร่องใต้ตาลึก (Tear trough)ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์
เห็นผลลัพธ์ทันที
ไม่ต้องพักฟื้นนาน
สามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ
กรณีใช้ HA สามารถสลายได้หากไม่พอใจผลลัพธ์
เหมาะกับการแก้ไขปัญหาเฉพาะจุด
มีความเจ็บปวดน้อย
ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์
ผลลัพธ์ไม่ถาวร ต้องฉีดซ้ำ
อาจเกิดอาการบวม ช้ำ หรือรอยแดงหลังฉีด
เสี่ยงต่อการเกิดการอุดตันของหลอดเลือด (vascular occlusion) หากฉีดผิดตำแหน่ง
อาจเกิดก้อนหรือตุ่มใต้ผิวหนัง (nodules)
อาจเกิดการติดเชื้อหรือแพ้สารฟิลเลอร์
ไม่สามารถยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยได้ การดูแลตัวเองก่อนและหลังการร้อยไหม
การเตรียมตัวก่อนร้อยไหม (7-14 วันก่อนทำหัตถการ)
งดยาและอาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
แอสไพริน (Aspirin)
ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น ไอบูโพรเฟน
วิตามิน E ขนาดสูง
น้ำมันปลา (Fish oil) และ Omega-3
สมุนไพรบางชนิด เช่น กิงโก บิโลบา (Ginkgo biloba), กระเทียม (Garlic), โสม (Ginseng)
งดการดื่มแอลกอฮอล์
อย่างน้อย 48 ชั่วโมงก่อนทำหัตถการ
แอลกอฮอล์ทำให้หลอดเลือดขยายตัวและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำ
งดการสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนทำหัตถการ
นิโคตินทำให้การไหลเวียนเลือดแย่ลงและชะลอการหายของแผล
หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด
Retinoids (เช่น Tretinoin)
Alpha Hydroxy Acids (AHAs)
Beta Hydroxy Acids (BHAs)
Vitamin C ความเข้มข้นสูงรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และดื่มน้ำให้เพียงพอ
เพิ่มการรับประทานผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง
ดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน
แจ้งประวัติการแพ้ยาและโรคประจำตัวให้แพทย์ทราบ
โรคภูมิแพ้
โรคผิวหนัง เช่น เฮอร์ปีส์ (Herpes), โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis)
โรคเลือด หรือความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด
โรคเบาหวาน
โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
พักผ่อนให้เพียงพอ
นอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงก่อนวันทำหัตถการ
ลดความเครียด เพราะความเครียดอาจส่งผลต่อการหายของแผล
ทำความสะอาดใบหน้า
มาพบแพทย์โดยไม่แต่งหน้า
ล้างหน้าให้สะอาดด้วยผลิตภัณฑ์อ่อนโยนก่อนมาทำหัตถการ
การดูแลตัวเองหลังร้อยไหม
24 ชั่วโมงแรก
ประคบเย็น
ประคบเย็นบริเวณที่มีอาการบวมหรือช้ำ
ประคบครั้งละ 10-15 นาที ทุก 1-2 ชั่วโมง
ห่อน้ำแข็งด้วยผ้าสะอาด ไม่วางน้ำแข็งโดยตรงบนผิว
นอนศีรษะสูง
นอนโดยใช้หมอน 2-3 ใบรองศีรษะให้สูงกว่าระดับหัวใจ
ช่วยลดอาการบวมและช้ำ
หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดบริเวณที่ร้อยไหม
ห้ามนวดหรือกดบริเวณที่ร้อยไหมโดยเด็ดขาด
ล้างหน้าอย่างเบามือ ไม่ขัดถู
รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง
ยาแก้ปวด
ยาปฏิชีวนะ (หากแพทย์สั่ง)
ยาลดบวม
1-7 วันหลังทำหัตถการ
หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก
งดการออกกำลังกายที่ทำให้เหงื่อออกมาก
งดการยกของหนัก
งดกิจกรรมที่ต้องก้มศีรษะ เช่น โยคะบางท่า
หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรุนแรง
งดการอบซาวน่า
งดการแช่น้ำร้อน
งดการอบไอน้ำ
หลีกเลี่ยงการแสดงสีหน้าที่เกินจำเป็น
ลดการยิ้มกว้าง หัวเราะมาก หรือแสดงสีหน้าที่ต้องใช้กล้ามเนื้อมาก
เพื่อป้องกันไม่ให้ไหมเคลื่อนตำแหน่ง
การทำความสะอาดใบหน้า
ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยน
ไม่ใช้ผ้าขนหนูถูบริเวณที่ร้อยไหม
เช็ดหน้าเบาๆ ไม่ขัดถู
การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
งดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด เช่น AHA, BHA, Retinol
ใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ
ทาครีมกันแดด SPF 30+ ทุกวัน
1-4 สัปดาห์หลังทำหัตถการ
กลับมาใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวตามปกติ
เริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นสูง
เริ่มออกกำลังกายเบาๆ
เริ่มด้วยการเดิน หรือออกกำลังกายเบาๆ
ค่อยๆ เพิ่มความหนักของการออกกำลังกาย
การนวดหน้า
สามารถเริ่มนวดหน้าเบาๆ ได้หลังจาก 3-4 สัปดาห์
ปรึกษาแพทย์ก่อนทำทรีตเมนต์ใดๆ
พบแพทย์ตามนัด
ไปพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามผล
แจ้งแพทย์หากมีอาการผิดปกติ เช่น ปวด บวม แดง หรือมีไข้
ข้อควรระวังพิเศษ
สังเกตอาการผิดปกติ
อาการปวดรุนแรงที่ไม่ทุเลาแม้รับประทานยาแก้ปวด
บวมมากผิดปกติ
มีไข้ผิวเปลี่ยนสีเป็นสีม่วงคล้ำมีน้ำเหลืองหรือหนองไหล
รู้สึกชาหรือเสียความรู้สึกบริเวณที่ร้อยไหม
การดูแลระยะยาวทาครีมกันแดดทุกวัน
หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ มีวิตามินซีและโปรตีนสูง
ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน
การดูแลตัวเองก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ (7-14 วันก่อนทำหัตถการ)
งดยาและอาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
แอสไพริน (Aspirin)
ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs)
วิตามิน E ขนาดสูง
น้ำมันปลา (Fish oil) และ Omega-3
สมุนไพรบางชนิด เช่น กิงโก บิโลบา, กระเทียม, โสมงดการดื่มแอลกอฮอล์
อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมงก่อนทำหัตถการ
แอลกอฮอล์เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำและบวม
งดการสูบบุหรี่
อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำหัตถการ
นิโคตินทำให้การไหลเวียนเลือดแย่ลง
แจ้งประวัติการแพ้ยาและโรคประจำตัวให้แพทย์ทราบ
โดยเฉพาะประวัติการแพ้ยาชา
ประวัติการติดเชื้อเริม (Herpes) บริเวณริมฝีปาก
โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
โรคเลือด
Comments