ไฮฟู Hifu ultramax 7Dทำให้หน้าเรียวได้จริงไหม
- วันวิสาข์ 2540
- 5 นาทีที่ผ่านมา
- ยาว 2 นาที
🔍 ไฮฟู Ultramax 7D คืออะไร?
ไฮฟู (HIFU - High-Intensity Focused Ultrasound) Ultramax 7D เป็นเทคโนโลยีความงามล้ำสมัย ✨ ที่ใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ความเข้มข้นสูงในการกระชับผิวและปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด 🔊 เทคโนโลยีนี้ได้รับความนิยมอย่างมากเนื่องจากสามารถให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกับการศัลยกรรม แต่มีความเสี่ยงและระยะพักฟื้นน้อยกว่ามาก 👍
⚙️ กลไกการทำงาน
ไฮฟู Ultramax 7D ทำงานด้วยหลักการสำคัญดังนี้:
เจาะลึกถึงชั้น SMAS 🎯: คลื่นอัลตร้าซาวด์ความเข้มข้นสูงสามารถเจาะผ่านผิวหนังชั้นบนไปถึงชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นที่อยู่ลึกลงไปประมาณ 4.5-8.0 มิลลิเมตร โดยไม่ทำลายผิวหนังชั้นบน
สร้างความร้อนเฉพาะจุด 🔥: คลื่นจะสร้างความร้อนประมาณ 65-75°C ในจุดเล็กๆ ที่เป้าหมาย ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่เหมาะสมในการกระตุ้นการหดตัวของคอลลาเจนเดิมและการสร้างคอลลาเจนใหม่
กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน 🧬: ความร้อนที่เกิดขึ้นจะกระตุ้นให้เกิดกระบวนการซ่อมแซมตามธรรมชาติ ทำให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่มาทดแทน ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญที่ช่วยให้ผิวกระชับและยืดหยุ่น
ชั้นผิวหนังที่ได้รับผลกระทบ 👇:
🌱 ผิวหนังชั้นนอก (Epidermis): ไม่ได้รับผลกระทบ (0.5-1.5 มม.)
🌿 ผิวหนังชั้นกลาง (Dermis): ได้รับการกระตุ้นให้สร้างคอลลาเจน (1.5-3.0 มม.)
🍃 ชั้นไขมัน (Fat): ได้รับผลกระทบบางส่วน (3.0-4.5 มม.)
🌳 ชั้น SMAS: เป้าหมายหลักของการรักษา (4.5-8.0 มม.)
🌲 กล้ามเนื้อ (Muscle): อยู่ลึกเกินไป ไม่ได้รับผลกระทบ (8.0-13.0 มม.)
✅ ไฮฟู Ultramax 7D ทำให้หน้าเรียวได้จริงหรือไม่?
คำตอบคือ "ได้จริง" ✅ แต่มีข้อควรทราบดังนี้:
ผลลัพธ์ที่ได้ 🏆:
💎 ใบหน้าเรียวขึ้น กรอบหน้าชัดเจนมากขึ้น
💎 ลดเหนียง กระชับใต้คาง
💎 ยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย
💎 ลดริ้วรอยและร่องแก้ม
💎 ผิวเรียบเนียนและกระชับขึ้น
ข้อจำกัด ⚠️:👤 ผลลัพธ์จะแตกต่างกันในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับอายุ สภาพผิว และโครงสร้างใบหน้า
🔄 ไม่สามารถให้ผลลัพธ์เทียบเท่าการผ่าตัดดึงหน้า แต่เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า
🔁 อาจต้องทำหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยมาก
ระยะเวลาที่เห็นผล ⏱️:
⚡ เห็นผลทันทีบางส่วนหลังทำเสร็จ เนื่องจากการหดตัวของคอลลาเจน
📈 ผลลัพธ์จะดีขึ้นเรื่อยๆ ในช่วง 2-3 เดือนแรก เนื่องจากการสร้างคอลลาเจนใหม่
🏁 ผลลัพธ์สูงสุดจะเห็นได้ชัดประมาณ 3-6 เดือนหลังการทำ
ความคงทน 🕰️:
📅 ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นาน 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับอายุและการดูแลผิว
🔄 ควรทำซ้ำทุก 12-18 เดือนเพื่อรักษาผลลัพธ์ 🛡️ การเตรียมตัวก่อนทำไฮฟู
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงจากการทำไฮฟู ควรเตรียมตัวดังนี้:
งดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด 🧴: งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี AHABHA, Retinol เป็นเวลา 1-2 สัปดาห์ก่อนทำ
หลีกเลี่ยงการอาบแดด ☀️: ใช้ครีมกันแดด SPF 50+ เสมอและหลีกเลี่ยงการตากแดดโดยตรง 1-2 สัปดาห์ก่อนทำ
งดการกินยาละลายลิ่มเลือด 💊: เช่น แอสไพริน วาร์ฟาริน หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีสารต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น น้ำมันปลา วิตามินอี เป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์
งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 🍷: 24-48 ชั่วโมงก่อนทำเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำ
ทำความสะอาดใบหน้า 🧼: มาด้วยใบหน้าที่สะอาด ไม่ควรแต่งหน้ามา
แจ้งประวัติสุขภาพ 📋: แจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัว กำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
ดื่มน้ำให้เพียงพอ 💧: อย่างน้อย 2 ลิตรต่อวันในช่วง 2-3 วันก่อนทำ
พักผ่อนให้เพียงพอ 😴: นอนหลับให้เพียงพอและลดความเครียด
🌿 การดูแลหลังทำไฮฟู
การดูแลหลังทำไฮฟูมีความสำคัญอย่างมากต่อผลลัพธ์และการฟื้นตัว ควรปฏิบัติดังนี้:
🕐 24 ชั่วโมงแรก
ประคบเย็น ❄️: หากมีอาการบวมแดง ให้ประคบเย็นเป็นระยะเวลา 10-15 นาที ทุก 1-2 ชั่วโมงในวันแรกหลีกเลี่ยงการสัมผัสหน้า 🚫ไม่ควรสัมผัสหน้าโดยไม่จำเป็นเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
งดการแต่งหน้า 💄: ควรงดการแต่งหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
หลีกเลี่ยงความร้อน 🔥: งดการอาบน้ำร้อน ซาวน่า หรืออบไอน้ำ
🗓️ 1 สัปดาห์แรก
งดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด 🧴: งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี AHA, BHA, Retinol เป็นเวลา 1 สัปดาห์หลังทำ
ใช้ครีมกันแดด ☂️: ทาครีมกันแดด SPF 50+ ทุก 2 ชั่วโมงเมื่ออยู่กลางแจ้ง แม้จะอยู่ในร่ม
ดื่มน้ำมากๆ 💦: อย่างน้อย 2-3 ลิตรต่อวัน เพื่อช่วยในการขับสารพิษและการฟื้นฟูผิว
🗓️ 2 สัปดาห์แรก
งดการนวดหน้า 👐: งดการนวดหน้าหรือทำทรีตเมนต์อื่นๆ เช่น เลเซอร์ อย่างน้อย 2 สัปดาห์
ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงที่เหมาะสม 🧴: ควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงที่มีส่วนผสมของ:
💧 คอลลาเจน
💧 เซรั่มบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของ Hyaluronic Acid
💧 มอยส์เจอไรเซอร์ที่อ่อนโยน
💧 วิตามินซี (หลังจากผ่านไป 1 สัปดาห์แล้ว)
ทานอาหารที่มีประโยชน์ 🥗: เน้นอาหารที่มีโปรตีนสูง ผักผลไม้ที่มีวิตามินซี และอาหารที่มีโอเมก้า 3
⚠️ ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
ผลข้างเคียงที่อาจพบได้หลังทำไฮฟู มักเป็นอาการเล็กน้อยและหายได้เองภายใน 1-7 วัน ได้แก่:
อาการแดง 🔴: ผิวอาจแดงเล็กน้อยหลังทำทันที มักหายภายใน 1-2 ชั่วโมง
อาการบวม 💭: อาจมีอาการบวมเล็กน้อย โดยเฉพาะบริเวณแก้มและกราม หายภายใน 1-3 วัน
อาการชา 😶: อาจรู้สึกชาบริเวณที่ทำ หายภายใน 1-2 สัปดาห์
รู้สึกตึงผิว ⚡: ผิวอาจรู้สึกตึงหรือแน่นกว่าปกติ ซึ่งเป็นผลจากการกระชับ
จุดแดงหรือรอยช้ำ 🟣: พบได้น้อย มักหายภายใน 3-7 วัน
หากมีอาการรุนแรงต่อไปนี้ ควรปรึกษาแพทย์ทันที ⚠️:
🚨 แผลไหม้หรือพุพอง
🚨 อาการบวมรุนแรงที่ไม่ดีขึ้นภายใน 3-5 วัน
🚨 อาการปวดรุนแรง
🚨 มีไข้หรืออาการติดเชื้อ 🚫 ข้อควรระวังและข้อห้าม
ไฮฟู Ultramax 7D ไม่เหมาะกับบุคคลต่อไปนี้:
🤰 ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
🩹 ผู้ที่มีแผลเปิดหรือการติดเชื้อบริเวณใบหน้า
🧬 ผู้ที่มีโรคผิวหนัง เช่น สะเก็ดเงิน เอ็กซีมา หรือโรคภูมิแพ้ผิวหนังที่กำลังกำเริบ
🦠 ผู้ที่มีโรคออโตอิมมูน เช่น ลูปัส
💓 ผู้ที่มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ฝังในร่างกาย เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจ
🔍 ผู้ที่มีประวัติเป็นเคลอยด์หรือแผลเป็นนูน
🔄 ผู้ที่เพิ่งทำเลเซอร์หรือทรีตเมนต์อื่นๆ ในช่วง 2-4 สัปดาห์ที่ผ่านมา
💡 คำแนะนำเพิ่มเติมเพื่อรักษาผลลัพธ์ให้ยาวนาน
การดูแลผิวประจำวัน 🧴:
🌞 ทาครีมกันแดดทุกวัน แม้อยู่ในร่ม
🌙 ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของคอลลาเจน, เปปไทด์, วิตามินซี
💧 ทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน ไม่ขัดถูแรงๆ
การดูแลสุขภาพโดยรวม 🥗:
🥦 รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผักผลไม้ โปรตีนคุณภาพดี
💦 ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร
🧘♀️ ลดความเครียด ฝึกโยคะหรือเทคนิคการผ่อนคลาย
😴 นอนหลับให้เพียงพอ 7-8 ชั่วโมงต่อคืน
การทำทรีตเมนต์เสริม ✨:
💆♀️ นวดหน้าด้วยเทคนิค Gua Sha หรือ Face Roller (หลังจาก 2 สัปดาห์แล้ว)
🧖♀️ มาส์กหน้าด้วยมาส์กที่มีส่วนผสมของคอลลาเจน 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์
💉 พิจารณาทำทรีตเมนต์เสริมอื่นๆ เช่น วิตามินซีฉีด หรือ PRP ตามคำแนะนำของแพทย์
Comments